การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,427.93 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,405.71 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 266 หลักทรัพย์ ลดลง 318 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 205 หลักทรัพย์
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เคทีบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้สามารถรีบาวน์ขึ้นมาได้ แต่มองว่ายังคงอยู่ภายใต้ความกดดันจากการเมือง ซึ่งนักลงทุนยังคงกังวล โดยเฉพาะวันที่ 7 ส.ค.ที่จะมีการพิจารณา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คงต้องติดตามสถานการณ์การเมืองอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ดี ทางฝ่ายวิจัยไม่ได้ให้น้ำหนักเรื่องนี้มากนัก เพราะมองพื้นฐานระยะยาวมากกว่า
โดยที่จริงช่วงนี้มองเป็นปัจจัยบวกมากกว่า หากไม่มีประเด็นการเมืองเข้ามากดดัน เพราะท่ามกลาง timing ของตลาดฯที่อยู่ในช่วงของการประกาศงบฯไตรมาส 2/56 ของบริษัทจดทะเบียนที่คาดว่าจะออกมาไม่ค่อยดี ซึ่งตลาดฯก็ได้มีการรับรู้ไปแล้ว ดังนั้น เมื่อประกาศงบฯออกมาก็น่าจะทำให้ตลาดฯไปต่อได้ แต่ขณะนี้ราคาหุ้นไม่สามารถเคลื่อนไหวในทิศทางที่แท้จริงได้ เพราะมีเรื่องการเมืองกดดันอยู่
นอกจากนี้ จะเห็นได้ว่าวอลุ่มเทรดของตลาดฯน้อย เนื่องจากนักลงทุนยังชะลอการลงทุน และระยะสั้นนักลงทุนต่างชาติคงจะมองว่าเมื่อคนมีการชะลอการลงทุนกัน ดังนั้นต่างชาติก็คงจะรอดูสถานการณ์ไปก่อน ทั้งที่จริงนักลงทุนต่างชาติเวลาจะลงทุนมักจะมองระยะยาวมากกว่า
ส่วนตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งแดนบวก-ลบ ซึ่งสัปดาห์นี้ปัจจัยจากนอกประเทศไม่มีนัยสำคัญมากนัก คงเป็นเรื่องทั่ว ๆ ไปมากกว่า
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(6 ส.ค.)นายปริญทร์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะเคลื่อนไหวในลักษณะเช่นเดียวกับวันนี้ และคงจะหลีกไม่พ้นที่จะเห็นการเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาในระหว่างเทรด พร้อมให้แนวรับ 1,415-1,420 จุด แนวต้าน 1,435 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
HMPRO มูลค่าการซื้อขาย 1,061.66 ล้านบาท ปิดที่ 13.40 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 995.53 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 986.44 ล้านบาท ปิดที่ 282.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 942.85 ล้านบาท ปิดที่ 7.70 บาท ลดลง 0.10 บาท
JAS มูลค่าการซื้อขาย 877.35 ล้านบาท ปิดที่ 8.20 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง