EASON มั่นใจปีนี้รายได้โต 10% กำไรสูงขึ้น,รง.สีอุตฯอินโดเริ่มผลิตปี 57

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 23, 2013 15:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสนิท เอกแสงกุล รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.อีซึ่น เพ้นท์(EASON)เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ปีนี้ยังมั่นใจรายได้โตตามเป้า 10% จากปีก่อนที่ 692 ล้านบาท แม้ครึ่งหลังเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่สีพ่นรถยนต์และสีพ่นพลาสติกที่ใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ หรือสีอุตสาหกรรมไม่น่าจะได้รับผลกระทบ เพราะไม่ได้ขายเฉพาะในประเทศไทย แต่ส่งไปขายยังตลาดต่างประเทศด้วยทั้งเวียดนาม มาเลเซีย และอินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้เวียดนามยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ยังขยายตัวสูง ส่วนมาเลเซียได้ตั้งบริษัทตัวแทนจำหน่ายแล้ว

ทั้งนี้ แนวโน้มยอดขายไตรมาส 3/56 น่าจะใกล้เคียงไตรมาส 2/56 ยังไม่ได้รับผลกระทบจากภาพรวมเศรษฐกิจ

ส่วนกำไรสุทธิปีนี้เชื่อว่าจะไม่ต่ำกว่าปีก่อนที่มีกำไร 111 ล้านบาทอย่างแน่นอน เนื่องจากรายได้ยังเติบโตอยู่ ทำให้กำไรเติบโตตาม โดยกำไรในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ก็สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนแล้ว

ปัจจุบัน บริษัทอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงงานผลิตสีอุตสาหกรรมในอินโดนีเซีย คาดจะสร้างเสร็จปลายปีนี้และเริ่มผลิตได้ต้นปี 57 โดยใช้เงินลงทุนราว 93 ล้านบาทสำหรับค่าก่อสร้างและเครื่องจักร กำลังการผลิตเฟสแรก 500 ตัน/เดือนขึ้นไป จากนั้นจะปรับขึ้นได้อีกตามคำสั่งซื้อจากลูกค้าที่เข้ามา

นายสนิท กล่าวว่า จากเดิมที่บริษัทต้องส่งสินค้าจากไทยเข้าไปจำหน่ายในอินโดนีเซีย แต่ลูกค้าได้แสดงความต้องการให้บริษัทตั้งสายการผลิตในอินโดนีเซีย โดยลูกค้าหลักเป็นค่ายฮอนด้า ยามาฮ่า คาวาซากิ และซูซูกิ ซึ่งเป็นลูกค้าหลักในประเทศไทยเช่นกัน การตั้งโรงงานที่อินโดนีเซียเพื่อใช้เป็นฐานการผลิตและขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งยอดขายในปีแรกกำลังเจรจากับลูกค้า เพื่อนำสีไปทดสอบก่อนใช้งานจริง

"เครื่องจักรเริ่มทยอยลงแล้วไม่เกินปลายปีนี้จะสร้างเสร็จ อย่างช้าไม่เกิน ม.ค.น่าจะผลิตได้ ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมอย่างรถมอเตอร์ไซค์ในอินโดฯหวังให้เราผลิตในพื้นที่ จึงจะสั่งซื้อเยอะ เพราะมีเรื่องเทคนิคการบริการเข้ามาเกี่ยวข้อง จึงเชื่อว่าหลังผลิตได้แล้วออร์เดอร์จะมีมากขึ้น"นายสนิท กล่าว

สำหรับทิศทางปี 57 รายได้ยังจะเติบโตตามภาพรวมอุตสาหกรรม และบริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้จากโรงงานในอินโดนีเซียเข้ามาอีกทางหนึ่ง ขณะที่ตลาดในประเทศยังน่าจะเติบโตได้ เพราะขณะนี้สินค้าของบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึงกว่า 40% เป็นอันดับ 1 ในตลาด

นายสนิท ก่าวว่า การที่เศราฐกิจไทยชะลอตัวคงต้องจับตาดูแนวโน้มต่อไป หลังจากมีการปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ลง แต่ในแง่ของบริษัทน่าจะได้รับผลกระทบทางอ้อมมากกว่า ส่วนเรื่องอีโคคาร์ เฟส 2 หากมีความชัดเจน บริษัทก็ได้รับอานิสงส์ไปด้วย เพราะบริษัทในเครือที่เราขายให้กลุ่มรถยนต์จะเติบโตได้ดีขึ้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ