WHA เล็งตั้งกองทุน Infra หลังจับมือ GUNKUL-SPCG ลงทุนโซลาร์รูฟ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 2, 2013 15:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแพทย์สมยศ อนันตประยูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น(WHA) เปิดเผยว่า บริษัทฯเตรียมที่จะเข้าประมูลงานโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar PV Rooftop)จากการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ทั้งนี้หากแผนการลงทุนดังกล่าวสำเร็จ WHA ก็มีโอกาสที่จะตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ในอนาคต

ทั้งนี้ บริษัทฯได้จัดตั้งบริษัทย่อย จำนวน 16 บริษัท เพื่อดำเนินโครงการผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังแสงอาทิตย์จำหน่าย โดยการจัดตั้งบริษัทย่อย ในครั้งนี้เป็นการร่วมลงทุนกับบมจ.กันกุลเอ็นจิเนียริ่(GUNKUL) จำนวน 6 บริษัท โดยมี ทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท จำนวนหุ้น 100,000 หุ้น โดย WHA ถือหุ้นร้อยละ 75 และ GUNKUL ถือหุ้นร้อยละ 25

ประกอบด้วย บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 1 จำกัด , บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 2 จำกัด, บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 3 จำกัด , บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 4 จำกัด, บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 5 จำกัด, บริษัท ดับบลิวเอชเอ กันกุล กรีนโซล่าร์รูฟ 6 จำกัด

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมลงทุน ในการจัดตั้งบริษัทย่อย ร่วมกับ บริษัท เอสพีซีจี แคปปิตอล จำกัด ในกลุ่มบมจ.เอสพีซีจี(SPCG) จำนวน 10 บริษัท โดยมีทุนจดทะเบียน 100,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท จำนวนหุ้น 10,000 โดย WHA ถือหุ้นร้อยละ 74.99 และ SPCG ถือหุ้นร้อยละ 25.01

โดยบริษัทย่อย ประกอบกับ บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-1 , บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-2 จำกัด , บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-3 จำกัด ,บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-4 จำกัด ,บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-5 จำกัด ,บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-6 จำกัด ,บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-7 จำกัด ,บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-8 จำกัด ,บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-9 จำกัด และ บริษัท ดับบลิวเอชเอ เอสพีซีจี-10 จำกัด

นายแพทย์สมยศ กล่าวเพิ่มเติมว่า การร่วมมือกันในครั้งนี้จะเป็นการเพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งให้บริษัทฯมากขึ้น ทั้งนี้หากพิจารณาแล้วจะเห็นได้ว่า ในปัจจุบันมีพื้นที่หลังคาคลังสินค้า รวมทั้งโรงงาน รวมแล้วกว่า 8 แสนตารางเมตร และ คาดว่าจะเพิ่มขึ้น แตะระดับ 1 ล้านตารางเมตร ได้ภายในสิ้นปีนี้อย่างแน่นอน โดยโครงการ Solar Roof นอกจากจะสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัทฯแล้ว ยังทำให้บริษัทฯมีสัดส่วนรายได้เพิ่มขึ้น นอกเหนือจากรายได้ในธุรกิจหลัก จากการให้เช่าคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานผลิตขนาดใหญ่

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว จะส่งผลดีโดยลูกค้าจะได้รับผลประโยชน์สูงสุด เนื่องจาก Solar Roof จะทำให้เกิดพื้นที่ฉนวนกันความร้อน ภายใต้หลังคาของคลังสินค้าและศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งจะทำลูกค้าสามารถยืดระยะเวลาในการรักษาคุณภาพของสินค้า รวมถึงยังเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้เพิ่มมากขึ้น พร้อมกันนี้ยังเป็นการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ภายใต้ กรีนเอนเนอร์ยี่ (Green Energy) อีกด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ