AOT ซ้อมแผนเผชิญเหตุรับกรณีฉุกเฉินหลังเครื่อง TG 679 ไถลออกนอกรัยเวย์

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday September 13, 2013 17:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นาวาอากาศตรีศิธา ทิวารี ประธานกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT) หรือ ทอท.กล่าวภายหลังซ้อมแผนปฏิบัติการในเหตุการณ์ฉุกเฉินของฝ่ายดับเพลิงและกู้ภัยภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิถึงกรณีเครื่องบินแอร์บัสเอ 330-300 เที่ยวบินที่ทีจี 679 ไถลออกนอกทางวิ่งว่า เป็นอุบัติเหตุครั้งใหญ่ และรุนแรงที่สุดของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตั้งแต่เปิดให้บริการมากว่า 7 ปี ซึ่งการปฏิบัติงานในขณะเกิดขึ้นถือว่าทุกฝ่ายปฏิบัติงานได้ดีเยี่ยม

อย่างไรก็ตาม ทอท.จะปรับแผนเผชิญเหตุ เช่น กรณีการอพยพผู้โดยสารหลังจากผู้โดยสารออกจากเครื่องบินและนำไปส่งที่อาคารผู้โดยสาร ซึ่งปกติเป็นหน้าที่ของสายการบิน แต่เมื่อเกิดเหตุพบปัญหาว่าเจ้าหน้าที่สายการบินไม่คุ้นเคยกับรันเวย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ ทอท.จะคุ้นเคยมากกว่า ดังนั้น ทอท.อาจจะปรับการให้บริการดังกล่าวเอง ซึ่งจะต้องไปเพิ่มเจ้าหน้าที่และอุปกรณ์รองรับให้เพียงพอกับเครื่องบินที่ใหญ่ที่สุด คือ แอร์บัสเอ 380 ซึ่งจุผู้โดยสารได้กว่า 500 คน

นาวาอากาศตรีศิธา กล่าวว่า ทอท.มีห้องรับรองผู้โดยสารและทางเข้าออกกรณีฉุกเฉินภายในอาคารเทียบเครื่องบินฝั่งเที่ยวบินภายในประเทศ แต่ในขณะเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ไม่ทราบ ทำให้ไปส่งผู้โดยสารในช่องทางปกติ ซึ่งตามขั้นตอนนั้นหากนำผู้โดยสารมายังห้องรับรองดังกล่าว ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองก็จะเข้ามาอำนวยความสะดวก ซึ่งผู้โดยสารจะมีปัญหาไม่มีเอกสารเดินทาง เพราะกระเป๋าอยู่บนเครื่องบิน หรือสูญหายระหว่างอพยพ

นอกจากนั้น ทอท.ยังได้เตรียมปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้โดยสาร โดยจะตั้งศาลแขวงสาขาประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ซึ่งจะช่วยผู้โดยสารที่ทำเอกสารเดินทางหาย หรือถูกขโมยทรัพย์สิน ให้สามารถแจ้งความได้ที่ศาลดังกล่าว ซึ่งจะทำให้ผู้โดยสารไม่ต้องเสียเวลาในการดำเนินงานตามกฎหมาย ซึ่งปกติจะต้องเสียเวลาอย่างน้อย 1 วัน โดยศาลดังกล่าวจะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง คาดว่าภายในวันที่ 23 ก.ย.นี้จะเปิดให้บริการ และจะเป็นท่าอากาศยานแรกในโลกที่มีศาลให้บริการในท่าอากาศยาน

ส่วนกรณีที่หลายฝ่ายออกมาพูดถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำท่าอากาศยานสุวรรณภูมินั้น นาวาอากาศตรีศิธา กล่าวว่า ภายในพื้นที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์และพระภูมิเจ้าที่อยู่ทั้งหมด 16 แห่ง ซึ่งพนักงานเชื่อว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้ช่วยปกปักษ์รักษา โดยผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและเจ้าหน้าที่ได้ทำพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่เป็นประจำทุกๆเดือน เพื่อความเป็นสิริมงคล และขวัญกำลังใจในการทำงานของพนักงาน แต่หากพนักงานคนใดต้องการจะสักการะเพิ่มเติมมากกว่าเดือนละครั้งก็สามารถทำได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ