วัตถุประสงค์เพื่อนำไปใช้ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯมีความประสงค์จะเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(SET)
บมจ.กรุงเทพบ้านและที่ดิน(KLAND) ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และ ณ วันที่ 30 มิ.ย.56 บริษัทฯได้ถือหุ้นในบริษัท ริเวอร์ไซด์ โฮมส์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด(RHD)ในสัดส่วน 51%, ถือหุ้นบริษัท ไพร์ม พลัส แอสเซ็ท จำกัด(PP)ในสัดส่วน 100%, ถือหุ้นในบริษัท เฟิร์ส แสควร์ จำกัด ในสัดส่วน 100%, ถือหุ้นในบริษัท ไซด์วอล์ค แลนด์ จำกัด(SL)ในสัดส่วน 100%, ถือหุ้นในบริษัท รีกัล รีเจี้ยน จำกัด (RR)ในสัดส่วน 100% และถือหุ้นในบริษัท วอเตอร์ไซด์แลนด์ จำกัด(WL)ในสัดส่วน 100%
ณ วันที่ 30 มิ.ย.56 บริษัทมีโครงการจำนวน 9 โครงการที่อยู่ระหว่างการเปิดขาย รวมมูลค่า 16,664 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าที่อยู่อาศัยที่จดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์แล้วจำนวน 8,929 ล้านบาท ทั้งนี้บริษัทมีมูลค่าโครงการคงเหลือรวมทั้งสิ้นประมาณ 20,014 ล้านบาท แบ่งเป็นมูลค่าโครงการคงเหลือในส่วนของโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการขาย ประมาณ 7,735 ล้านบาท และมูลค่าโครงการคงเหลือในส่วนของโครงการในอนาคตอีกจำนวน 9 โครงการ ประมาณ 12,279 ล้านบาท
นอกจากนั้น บริษัทมีแผนเปิดโครงการใหม่ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการบนทำเลที่มีศักยภาพหลายโครงการ เช่น โครงการ เดอะ แกรนด์ ปิ่นเกล้า เป็นโครงการบ้านเดี่ยวบนเนื้อที่ 187 ไร่ติดถนนบรมราชชนนี และ โครงการ ไทมส์ พระราม 5-นครอินทร์ เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์บนเนื้อที่ 17 ไร่บนถนพระราม 5 โซนเหนือ
ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกปี 56 สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.56 บริษัทมีรายได้รวม 1,861.28 ล้านบาท กำไรสุทธิ 259.27 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 7,568.65 ล้านบาท หนี้สินรวม 4,159.80 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้น 3,408.83 ล้านบาท
ณ วันที่ 30 มิ.ย.56 บริษัทมีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 2,400 ล้านบาท เป็นทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 1,780 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท ณ วันที่ 30 มิ.ย.56 ประกอบด้วย บริษัท เฟรเซอร์(ไทยแลนด์) พีทีอี แอลทีดี ถือหุ้น 720 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 40.45% หลังเสนอขาย IPO ในครั้งนี้จะลดสัดส่วนการถือหุ้นลงเหลือ 30%, บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เฟอร์เฟค(PF)ถือหุ้น 359,999,640 หุ้นหรือคิดเป็น 20.22% หลังเสนอขาย IPO จะลดสัดส่วนเหลือ 15%, กลุ่มนายธงชัย คุณากรปรมัตถ์ ถือหุ้น 294,998,060 หุ้นหรือคิดเป็น 16.57% หลังเสนอขาย IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 12.29% และกลุ่มนายพิจิตต รัตตกุล ถือหุ้น 250 ล้านหุ้นหรือคิดเป็น 14.05% หลังเสนอขาย IPO จะลดสัดส่วนลงเหลือ 10.41%
บริษัทมีนโยบายที่จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในแต่ละปีในอัตราไม่เกินกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้และเงินสำรองตามกฎหมายและเงินสำรองอื่น ๆ