ล่าสุด อยู่ระหว่างขอใบอนุญาต คาดได้ใบอนุญาตราวกลางเดือนต.ค.นี้ และหลังจากนั้นจะเริ่มให้บริการได้ในอีก 1 เดือน
นายกฤษณัน งามผาติพงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CTH กล่าวว่า บริษัทฯได้มีการขยายธุรกิจการให้บริการเคเบิ้ล และบริการบรอดแบนด์ในประเทศลาว โดยจัดตั้งบริษัทร่วมทุนขึ้นใหม่ใช้ชื่อว่า CTH SSN Television (สปป.ลาว) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตจากรัฐบาล คาดว่าจะได้รับใบอนุญาตในช่วงกลางเดือนต.ค.นี้ (19-20 ต.ค.56) และจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายใน 1 เดือนหลังจากได้รับใบอนุญาต โดยจะเน้นให้บริการใน 4 หัวเมืองหลัก คือ เวียงจันทร์ หลวงพระบาง สุวรรณเขต และปากเซ
บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดผู้ชมในปีนี้ 3-5 หมื่นครัวเรือน และคาดว่าภายใน 2 ปี (57-58) จะมียอดผู้ชมเพิ่มเป็น 2 แสนครัวเรือน ส่วนรายได้บริษัทฯคาดว่าจะอยู่ที่ 120 ล้านบาทต่อปี และภายใน 3 ปีจะสามารถคืนทุนได้ โดยรายได้จะมาจากการให้บริการและโฆษณาเป็นหลัก
"เรามองว่าประเทศลาวมีจำนวนผู้ชมทีวีอยู่จำนวนมาก ด้วยความที่ประเทศยังไม่ค่อยมีแหล่งสถานบันเทิง อย่างโรงภาพยนต์ ซึ่งผู้ชมส่วนใหญ่จะรับชมผ่านทีวีเป็นหลัก ทำให้เราเห็นโอกาสในการเข้ามาลงทุน รวมถึงบริษัทมองไปถึงเรื่องของบรอดแบนด์ด้วยเนื่องจากเห็นว่าศักยภาพด้านการเปิดให้บริการ 4G ในลาว และการใช้ระบบโครงข่ายไฟเบอร์ออฟติกส์ ซึ่งโอกาสที่บริษัทจะต่อยอดขยายธุรกิจมีความเป็นไปได้สูงพอสมควร" นายกฤษณัน กล่าวสำหรับ คอนเท้นท์จะมีกว่า 10 รายการ เช่น ช่อง ญ. ช่องหลากหลายอาชีพ และช่องกีฬา ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก รวมถึงทาง CTH SSN จะมีผลิตรายการเพิ่มอีกจำนวน 2 ช่องรายการ คือ รายการเกี่ยวกับวัฒนธรรมลาว และการศึกษาหรือรายการสุขภาพ
อย่างไรก็ตามราคาค่าแพ็กเกจ สำหรับการให้บริการรับชมพรีเมียร์ลีกนั้นคาดว่าจะอยู่ประมาณ 600 บาท/เดือน และจะพยายามไม่ให้ราคามากไปกว่านี้ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนน่าจะมีกำลังจ่ายได้ เนื่องจากปัจจุบันประชาชนมีรายจ่ายกับค่าบริการด้านการสื่อสารทั่วไปที่ 800 บาท/เดือน
นายกฤษณัน กล่าวต่อว่าในส่วน CTH เตรียมปรับเป้ารายได้ลงจากที่ตั้งเป้าไว้ที่ 7 พันล้านบาทในปีนี้ เนื่องจากการติดตั้งกล่อง set top box มีปัญหาในการติดตั้งจากฝนตก ในช่วงฤดูฝน ทำให้การติดตั้งเฉลี่ยต่อวันลดลงมาอยู่ที่ 3 ราย/วัน จากปกติติดตั้งได้ 6-7 ราย/วัน โดยปัจจุบันมีการติดตั้งกล่องไปแล้ว 3 แสนกล่อง จากทั้งหมด 8 แสนกล่อง ประกอบกับ Capacity ที่อยู่ในระบบเต็ม ทำให้ภาพในทีวีมีการกระตุก จึงต้องเร่งแก้ในส่วนนี้ โดยคาดว่าจะสามารถติดตั้งให้แล้วเสร็จได้ภายในไตรมาส 1/57
นอกจากนี้บริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ในปี 58 โดยคาดว่าจะมีมูลค่าหุ้นอยู่ที่ 10 บาท