ตลท.รับ"วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์"เข้าเทรด mai 3 ต.ค.ชื่อย่อ WINNER

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 2, 2013 18:24 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวปวีณา ศรีโพธิ์ทอง ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์และบริษัทจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บมจ. วินเนอร์กรุ๊ป เอ็นเตอร์ไพรซ์ (WINNER)จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในวันที่ 3 ตุลาคม 2556

WINNER ดำเนินธุรกิจนำเข้า ผลิต จัดจำหน่ายวัตถุดิบ ส่วนผสมและเคมีภัณฑ์เพื่อแปรรูปในอุตสาหกรรมอาหารและเบเกอรี่ ภายใต้ตราสินค้าชั้นนำระดับโลกและตราสินค้าของบริษัทเอง นอกจากนี้ยังเป็นผู้แทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อบริโภค อาทิ ป๊อปคอร์นสำหรับไมโครเวฟ ตรา Pop Secret ธัญพืชแท่ง ตรา Nature Valley และ แป้งเบเกอรี่สำเร็จรูปตรา Betty Crocker โดยมีสินค้าจัดจำหน่ายมากกว่า 500 รายการ

WINNER มีทุนชำระแล้ว 100 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.25 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 312 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 88 ล้านหุ้น โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนทั้งจำนวนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 25-27 กันยายน 2556 ในราคาหุ้นละ 2.00 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนรวม 176 ล้านบาท โดยมี บล.ธนชาต เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายเจน วองอิสริยะกุล กรรมการผู้จัดการ WINNER เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่บริษัทได้เข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai โดยบริษัทจะนำเงินจากการระดมทุนครั้งนี้ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการประกอบกิจการและขยายธุรกิจรวมทั้งลงทุนขยายคลังสินค้าและระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งจะช่วยเสริมให้บริษัทเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งยิ่งขึ้น

หลัง IPO ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ WINNER 3 ลำดับแรกได้แก่ ครอบครัววองอิสริยะกุล ถือหุ้น 50.56% ครอบครัวโรจนวิศาส ถือหุ้น 8.25 % ครอบครัวตัณทนาวิวัฒน์ ถือหุ้น 3.32% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO ครั้งนี้ คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (P/E Ratio) ที่ 9.2 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิของบริษัท 4 ไตรมาสล่าสุด (ไตรมาส 3 ปี 2555 - ไตรมาส 2 ปี 2556) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully diluted)คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.22 บาทต่อหุ้น เปรียบเทียบกับค่า P/Eเฉลี่ยของบริษัทจดทะเบียนที่มีการประกอบธุรกิจคล้ายคลึงกับบริษัท (ระหว่างวันที่ 16 สิงหาคม - 16 กันยายน 2556) เท่ากับ 18.8 เท่า

บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50%ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล เงินสำรองตามกฎหมาย และเงินสำรองต่างๆ ทั้งหมด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ