(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวลง มองตลาดเทรด P/E สูง-ยังติดตามปัจจัยจากสหรัฐฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 9, 2013 09:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงมากกว่า เนื่องจากปัจจุบันตลาดฯเทรดด้วย P/E ถึง 15 เท่า ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่สูงและเมื่อวานนี้ตลาดฯก็ปรับตัวขึ้นไปทั้งที่ไม่ได้มีปัจจัยอะไรใหม่เข้ามา ขณะเดียวกันดาวโจนส์ก็ปรับตัวลงด้วย ซึ่งถ้าหากนับจากจุดสูงสุดจะเห็นได้ว่าดาวโจนส์ปรับตัวลงไปแล้ว 5.7% ดังนั้นจึงน่าจะเป็นตัวที่กดดันให้ตลาดฯปรับตัวลง

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังเฝ้ารอดูปัจจัยจากสหรัฐฯทั้งในเรื่องของงบประมาณ และเพดานหนี้(Debt Ceilling) พร้อมให้แนวรับ 1,400 จุด แนวต้าน 1,450 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(8 ต.ค.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 14,776.53 จุด ลดลง 159.71 จุด(-1.07%), ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,655.45 จุด ลดลง 20.67 จุด(-1.23%)และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 3,694.83 จุด ลดลง 75.54 จุด (-2%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 104.72 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 6.81 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 176.77 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 23.40 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.78 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ลดลง 11.29 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.79 จุด และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ลดลง 4.60 จุด

ทั้งนี้ ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันภาษาเกาหลี

  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(8 ต.ค.)ที่ 1,434.06 จุด เพิ่มขึ้น 19.44 จุด(+1.37%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 22.92 ล้านบาท เมื่อ 8 ต.ค.56
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการเมื่อวานนี้(8 ต.ค.)ที่ 103.49 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.46 ดอลลาร์ฯ
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดวานนี้(8 ต.ค.)ที่ 2.55 เหรียญฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 31.38/40 คาดแกว่งแคบ รอปัจจัยจากสหรัฐฯ
  • ครม.อนุมัติร่างเอ็มโอยูไทย-จีน 3 ฉบับพ่วงข้อตกลงด้านวิทยาศาสตร์-เทคโนโลยีอีก 4 โครงการ"ยิ่งลักษณ์"พร้อมลงนามร่วม"หลี่ เค่อเฉียง"นายกฯจีน 11 ต.ค.นี้ ดึงจีนลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน รถไฟทางคู่และรถไฟความเร็วสูง วางเงื่อนไขชำระค่าโครงสร้างพื้นฐานแลกสินค้าเกษตรไทย
  • กนง.ประเมินสหรัฐผิดชำระหนี้จะส่งผลกระทบต่อการลงทุนของจีนหนักมากสุด ธปท.เผยติดตามสถานการณ์ใกล้ชิด เช่นเดียวกับหลายประเทศ แม้ประเมินโอกาสผิดชำระหนี้มีน้อย ขณะอินโดฯเตรียมประกาศมาตรการรับมือ ผวาค่าเงินป่วน
  • น้ำท่วมทะลักเข้านิคมอุตสาหกรรมอมตะนครแล้ว เอกชนหวั่นซ้ำรอยเดิมปี 54 กทม. เฝ้าระวังฝั่งตะวันออกเร่งผันน้ำผ่านกรุงเทพฯชั้นใน "ชายหมู" สั่งเปิดประตูระบายน้ำคลองสองสายใต้ 40 ซม. เฝ้าระวัง 25 ชุมชนนอกแนวคัน จี้สอบปล่อยสินเชื่อโครงการน้ำ 3.5 แสนล้าน
  • วุฒิสภามีมติเสียงข้างมาก 86 เสียง ต่อ 41 เสียง รับร่างพ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ในวาระที่ 1 พร้อมกับตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญ 25 คน กำหนดให้แปรญัตติภายใน 7 วัน เริ่มประชุมนัดแรกวันที่ 9 ต.ค. เพื่อเลือกประธาน กมธ.
  • ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์(กสท.)วันที่ 14 ต.ค.นี้ จะมีการพิจารณาค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิตอล ราคาเดือนละ 4.7-5 ล้านบาทต่อเดือน สำหรับช่องรายการทั่วไประบบปกติ และเดือนละ 15 ล้านบาท สำหรับช่องรายการคมชัดสูง (ไฮเดฟินิชัน หรือเอชดี)
  • สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) รายงานสถานการณ์เศรษฐกิจเดือน ส.ค.และแนวโน้มปี 2556 ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบ โดย สศช.ระบุว่า ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจเดือน ส.ค.แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้นด้านการใช้จ่ายและด้านการผลิต โดยเฉพาะการส่งออกและการท่องเที่ยว
  • รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้รัฐบาลไทยและพม่าได้หารือเพื่อจัดทำกรอบข้อตกลงความร่วมมือซื้อขายไฟฟ้าฉบับใหม่ โดยจะขยายการรับซื้อไฟฟ้าจากพม่าเพิ่มอีก 1 หมื่นเมกะวัตต์ผ่านโครงการลงทุน 2 โครงการ คือ โรงไฟฟ้าพลังน้ำสาละวิน มายตง มีกำลังการผลิต 7,000 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าถ่านหินทวาย 3,000 เมกะวัตต์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • THREL(บมจ.ไทยรีประกันชีวิต)เข้าเทรดวันนี้วันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในกลุ่มธุรกิจการเงิน หมวดประกันภัยและประกันชีวิต โดยมีราคา IPO 9.50 บาท/หุ้น
  • THRE(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 6.10 บาท การเข้าซื้อขายในตลาดฯวันแรกของ THREL (THRE ถือหุ้น 50.83%) น่าจะทำให้หุ้นแม่ได้รับความสนใจด้วยเพราะการนำหุ้น 295 ล้านหุ้น(ต้นทุน 1 บาท/หุ้น)มาขายในราคา 9.50 บาท ทำให้มีกำไรราว 2.5 พันล้านบาท แม้จะนำไปตั้งสำรองค่าสินไหมน้ำท่วมเพิ่มเติม ทำให้ไม่น่าส่งผลต่อกำไรสุทธิใน 3Q13 แต่ก็น่าจะทำให้ผู้ตรวจสอบบัญชีกลับมารับรองงบการเงิน หลังจากที่ไม่รับรอง 7 ไตรมาสติดต่อกัน และกำไรมีเสถียรภาพมากขึ้น
  • JAS(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 10.50 บาท ประเมินราคาหุ้นมีปัจจัยบวกสนับสนุนในระยะสั้น ทั้งโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษจากกำไรจัดตั้งกองทุน IFF สูงกว่านโยบายการจ่ายเงินปันผล และแนวโน้มกำไร 3Q56 เติบโตดี คงมุมมองบวกต่อการเติบโตของกำไรสุทธิปีนี้ 37% ขณะที่มูลค่าเหมาะสมตามปัจจัยพื้นฐานยังไม่รวมผลจาก IFF โดยรอการอนุมัติจาก กลต. และการกำหนดอัตราค่าเช่าโครงข่ายหลังปีที่ 7 ซึ่งอาจทำให้กองทุนมีรายได้สูงขึ้น
  • CKP(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 15 บาท น่าสนใจจากการเติบโตผลประกอบการโดดเด่นกว่าธุรกิจผลิตไฟฟ้า จากโรงไฟฟ้าใหม่ทยอยเริ่มผลิต ได้แก่ เชียงราย โซลาร์ และโรงไฟฟ้า Cogeneration บางปะกง (BIC1) คาดปี 56-58 จะมีกำไรสุทธิโตเฉลี่ย 19%(CAGRs)สูงกว่าธุรกิจผลิตไฟฟ้าในประเทศที่โตเฉลี่ยเพียง 2.3% ราคาหุ้นมี Upside 19%
  • BANPU(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 33.7 บาท 3Q56 คาดกำไรสุทธิกลับมาฟื้นตัวจากแผนลดต้นทุนและลดการผลิตจากแหล่งผลิตที่ต้นทุนสูง ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงจะทำให้มีผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนลดลงเมื่อเทียบกับ 2Q56 ส่วนทั้งปียังประมาณการณ์กำไรสุทธิตามเดิม 4,860 ล้านบาทลดลง 48%yoy
  • TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 90 บาท เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 3Q56 ในช่วง 250-300 ล้านบาท โตทั้ง yoy และ qoq จาก 185 ล้านบาท ใน 2Q56 และ 94 ล้านบาท ใน 3Q55 เชื่อน้ำท่วมหลายจังหวัดดันความต้องการยางมะตอยในประเทศซ่อมแซมถนนเพิ่มสูงขึ้นหลังน้ำล 231 เส้นทาง รวมความเสียหาย 2,096 ล้านบาท ส่งผลบวกโดยตรง ยืนยันมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 57 ที่คาดโตตามงบรายจ่ายของภาครัฐฯ และราคาหุ้นมี Valuation ค่อนข้างถูก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ