สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB21DA และ LB145B (รุ่นอายุ 3.7 ปี, 8.2 ปี และ 0.6 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 5,830 ล้านบาท หรือคิดเป็น 72% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (A164A) มูลค่า 199.8 ล้านบาท
2. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC17DA) มูลค่า 164.5 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) (DTAC148A) มูลค่า 162.6 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 527.0 ล้านบาท หรือคิดเป็น 30.9% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 5,929 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 238 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 913 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.54% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.53% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ ประมาณ 1 bp. ปริมาณการซื้อขายเบาบาง ล่าสุด IMF ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้ลง เป็น 2.9% จาก 3.2% และปีหน้าเป็น 3.6% จาก 3..8% โดยนักลงทุนยังคงกังวลว่าสหรัฐฯ อาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้ หลังจากสภาคองเกรสยังไม่สามารถตกลงเกี่ยวกับการผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง สำหรับนักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 913 ล้านบาท