บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯแนะ"ซื้อ"หุ้น ธนาคารกรุงเทพ(BBL)จากความเชี่ยวชาญทางด้านสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งลูกค้ามีช่องทางในการไปลงทุนในต่างประเทศ น่าจะช่วยเลี่ยงความผันผวนของเศรษฐกิจในประเทศได้ ประกอบกับ BBL เป็นธนาคารที่สามารถรองรับความเสี่ยงได้มาก จากสำรองส่วนเกินที่มีอยู่สูงที่สุดในระบบธนาคาร นอกจากนี้ เมื่อเปรียบเทียบราคาพื้นฐาน 229 บาท กับราคาปัจจุบันยังมีส่วนต่างอยู่พอสมควร
ทั้งนี้ คาดว่า BBL จะรายงานกำไรสุทธิ 4Q56 ที่ 8.4 พันล้านบาท ลดลง 5% q-q ถึงแม้ว่าสินเชื่อจะเติบโตสูงใน 4Q56 แต่สินเชื่อที่เพิ่มขึ้นเข้ามามากในเดือน ธ.ค.ประกอบกับมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง ในขณะที่ต้นทุนเงินฝากยังไม่ปรับลงเนื่องจากมีเงินฝากอัตราดอกเบี้ยพิเศษเข้ามามาก ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง 0.3%
ประกอบกับปกติไตรมาส 4 จะเป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายเข้ามามาก และเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการปรับลดลงจาก 3Q56 แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับ 4Q55 ยังคาดว่ากำไรสุทธิของ BBL จะเพิ่มขึ้น 2% y-y เนื่องจากสินเชื่อที่เพิ่มขึ้นมากทำให้รายได้ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้น และการพยายามเร่งเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม ทำให้รายได้ค่าธรรมเนียม รวมไปถึงรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยอย่างอื่นปรับเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้จากสำรองส่วนเกินที่มีค่อนข้างมาก ทำให้คาดว่าในไตรมาสนี้ BBL จะมีการตั้งสำรองลดลงจากปีก่อนมาก และทำให้ผลประกอบการเพิ่มสูงขึ้น
ส่วนปี 56 คาดว่า BBL จะมีกำไรสุทธิ 37 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 11% y-y กำไรต่อหุ้น 19.22 บาท และคาดมีเงินปันผล 7 บาท/หุ้นโดยจ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 2 บาท เหลือปันผลครึ่งปีหลังอีก 5 บาท/หุ้น yield 3%