AOT ยันไม่มีแผนตั้งกองทุนอินฟราฯ มีแหล่งทุนพร้อมขยายสุวรรณภูมิเฟส 2

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 21, 2014 11:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.อ.ศิธา ทิวารี ประธานกรรมการ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์" ว่า บริษัทไม่มีแผนจะจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพียงแต่เคยมีการพูดคุยกันภายในว่าการจัดตั้งกองทุนดังกล่าวเป็นแนวทางเลือกหนึ่งในการระดมทุน แต่เนื่องจากบริษัทไม่มีความจำเป็นต้องระดมทุนเงินจำนวนมาก เพราะปัจจุบันมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดยมีเงินสดในมือ 4 หมื่นล้านบาท และการที่บริษัทเป็นรัฐวิสาหกิจมีกระทรวงการคลังถือหุ้นใหญ่จะมีกระบวนการยุ่งยากในการจัดตั้งกองทุนดังกล่าว

"เราเคยคุยเป็น option หนึ่ง แต่เราไม่ทำเพราะเห็นว่าไม่จำเป็นต้องทำ(กองทุนโครงสร้างพื้นฐาน) การขยายตัวเราทำแบบพอเหมาะพอควร เราหาเงินได้อยู่แล้ว" ประธานกรรมการ AOT กล่าว

ทั้งนี้ AOT มีโครงการขยายท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ 2 วงเงินลงทุนประมาณ 6 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าในปีนี้เริ่มก่อสร้าง และจะก่อสร้าวแล้วเสร็จในปี 60 ส่วนท่าอากาศยานกรุงเทพ (ดอนเมือง) จะขยายอาคารผู้โดยสารระยะที่ 2 รวมทั้งขยายทางวิ่ง เพื่อรองรับเครื่องบินแอร์บัส A380 รวมวงเงินลงทุนประมาณ 1 หมื่นล้านบาท

ประธานกรรมการ AOT กล่าวว่า บริษัทจะนำแหล่งเงินทุนมาจากเงินสดในมือที่บริษัทมีอยู่ 4 หมื่นล้านบาท ประกอบกับมีกำไรสุทธิในแต่ละปีประมาณ 1.1-1.2 หมื่นล้านบาท โดยงวดปี 56/57(สิ้นสุด ก.ย.) คาดว่าจะมีผลกำไรประมาณ 1.1 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้บริษัทจะเริ่มทยอยจ่ายในปี 57 ซึ่งปีแรกคาดว่าจะจ่ายประมาณ 10-15% ของวงเงินลงทุน ขณะที่บริษัทคาดว่าในปี 59-60 อาจจะกู้เงินเพิ่มเติมในช่วงที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง แต่ก็เชื่อว่าวงเงินกู้ไม่มากเป็นหลักพันล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังมีกำไรจากการสวอปหนี้เงินสกุลเยนเป็นเงินบาท จำนวน 3 พันล้านบาทเมื่องวดปี 55/56 และปัจจุบันเงินบาทกลับมาอ่อนอีกครั้ง ทำให้ภาระหนี้สกุลต่างประเทศลดลงประมาณ 3 พันล้านบาท

น.อ.ศิธา กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีการปรับเป้าหมายรายได้งวดปี 56/57 ที่คาดจะเติบโต 10% จากงวดปีก่อน แม้ว่าได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทางการเมืองในขณะนี้ แต่ยอมรับว่าไตรมาสที่ 1 ของงวดปี 56/57 (ต.ค.-ธ.ค.56) และต่อเนื่องในไตรมาส 2 ของงวดปี 56/57 (ม.ค.-มี.ค.57) ได้รับผลกระทบแต่ไม่มาก แต่จำนวนผู้โดยสารที่เดินทางเข้าไทยน้อยลง หรือนักท่องเที่ยวบางรายไม่แวะจุดกรุงเทพโดยบินตรงไปเชียงใหม่หรือภูเก็ตแทน แต่มีผู้โดยสารไทยบินออกนอกประเทศมาก และบินภายในประเทศมากขึ้นมาชดเชยแทน

"สถานการณ์การเมืองส่งผลกระทบบริษัทเอกชน รัฐวิสาหกิจ ค่อนข้างมาก...เป้ารายได้ยังไม่ปรับ ขอรอดูสถานการณ์ไปก่อน"น.อ.ศิธา กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ