บลจ.แอสเซทพลัส เสนอขายกองทุนหุ้นยุโรป 23 ม.ค.-6 ก.พ.หลังเห็นศก.ฟื้นตัว

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 21, 2014 14:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรัชต์ โสดสถิตย์ กรรมการผู้จัดการ บลจ.แอสเซท พลัส เปิดเผยว่า บริษัทได้เสนอขายกองทุนเปิดแอสเซทพลัสสตาร์ 8 (ASP-STARS8) ซึ่งเป็นกองทุนหุ้นต่างประเทศประเภท Feeder fund ที่มีเป้าหมายจ่ายผลตอบแทนต่อเนื่องใน 12 เดือน จากการลงทุนในหุ้นยุโรป ผ่านกองทุนหลัก E.I. Sturdza Strategic Europe Value ที่บริหารการลงทุนเชิงรุกแบบ Bottom up เลือกหุ้นเป็นรายตัว โดยเน้นลงทุนในหุ้นยุโรปประมาณ 25-35 ตัว ที่เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม มีรายได้สม่ำเสมอ มีทีมบริหารที่มีคุณภาพ และมีมูลค่าบริษัทน่าสนใจ ด้วยความเชี่ยวชาญ และความใกล้ชิดข้อมูล และมีผลการดำเนินงานที่ดีต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กองทุน ASP-STARS8 จะเสนอขายครั้งเดียตั้งแต่ 23 มกราคม ถึงวันที่ 6 กุมภาพันธ์ นี้ เท่านั้น

“กองทุน ASP-STARS8 มีเป้าหมายรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเมื่อมูลค่าหน่วยลงทุน (NAV) ปรับขึ้น ทุก ๆ 0.50 บาท จากราคาเริ่มต้น 10 บาทซึ่งเหมาะกับสภาวะตลาดที่มีความผันผวนผู้ลงทุนจะมีโอกาสได้รับกระแสเงินสดระหว่างระยะเวลาการลงทุน"นายรัชต์ กล่าว

กองทุน ASP-STARS8 มีการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของส่วนที่ลงทุนต่างประเทศ ทำให้ผู้ลงทุนสามารถรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นได้อย่างเต็มที่ และผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ด้วยเงินลงทุนจำนวนไม่มาก ขั้นต่ำเพียง 10,000 บาท เท่านั้น

นายรัชต์ กล่าวว่า จากการที่เศรษฐกิจยุโรปผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจยุโรปจะขยายตัวกลับมาเป็นบวกได้ในปีนี้ ที่ระดับ GDP ที่ 0.90% หลังจากติดลบมา 6 ปี ขณะที่ตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของยุโรปได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องมาอยู่ระดับสูงสุด ประกอบกับธนาคารกลางยุโรป (ECB) เริ่มผ่อนคลายความเข้มงวดในการคุมการขาดดุลงบประมาณของประเทศสมาชิกเพื่อให้การบริโภค การลงทุน และการส่งออกของประเทศสมาชิกฟื้นตัวขึ้นมา และได้มีแผนการจัดตั้งสหภาพการธนาคาร (Banking union) เพื่อควบคุมดูแลการทำงานของธนาคารพาณิชย์ในกลุ่มสหภาพยุโรป เช่น การปล่อยสินเชื่อที่ไม่เหมาะสม

“แม้เศรษฐกิจยุโรปยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ แต่การคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำทำให้ ECB สามารถคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับต่ำ, การที่ไม่เกิดสภาวะฟองสบู่, ภาคเอกชนเพิ่มการลงทุนมากขึ้นหลังจากชะลอการลงทุนไปในช่วงที่เศรษฐกิจซบเซา น่าจะผลักดันให้การเติบโตของกำไรบริษัทจดทะเบียนในปีนี้เพิ่มขึ้นได้ 10-15% ซึ่งสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ผลตอบแทนจากการลงทุนในดัชนีตลาดหุ้นยุโรป เช่น Stoxx Europe 600, FTSE 100 และ Eurostoxx 50 ใน 1 ปีข้างหน้า ที่อยู่ที่ประมาณ 15% จังหวะนี้จึงเป็นโอกาสเหมาะในการลงทุนในหุ้นยุโรป ที่มีราคาที่เหมาะสม โดยเน้นการคัดเลือกหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ" นายรัชต์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ