TNITY วางนโยบายปี 57 เพิ่มรายได้ทุกด้านรับคาดการณ์ SET Index แตะ 1,500

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday March 4, 2014 15:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายวิศิษฐ์ องค์พิพัฒนกุล กรรมการ บมจ.ทรีนีตี้ วัฒนา(TNITY) และกรรมการผู้จัดการ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า แผนการดำเนินงานในปี 57 บริษัทเตรียมปรับเพิ่มรายได้ในทุกธุรกิจ โดยคาดว่าธุรกิจด้านวาณิชธนกิจจะมีการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน และหุ้นเพิ่มทุนของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ 5-6 ราย และงานที่ปรึกษาด้านการปรับโครงสร้างทางการเงินอีก 4-6 ราย คาดว่าการมีสินค้าใหม่ๆจะช่วยเพิ่มฐานบัญชีลูกค้าด้านธุรกิจหลักทรัพย์ให้เพิ่มมากขึ้น โดยด้านธุรกิจหลักทรัพย์ตั้งเป้าจำนวนบัญชีใหม่ 1,000 ราย สอดคล้องกับฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่ประเมินว่าตลาดหุ้นไทยดัชนีสิ้นปีมีโอกาสแตะ 1,500 จุดซึ่งเป็นค่า PE (Forward) ที่ 13.7 เท่าของกำไรต่อหุ้นในปี 2557 และปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยทั้งปี 40,000 ล้านบาท

ส่วนธุรกิจด้านการจัดการกองทุนส่วนบุคคล (Wealth Management) มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นตามความเชื่อมั่นในการลงทุนที่ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ ได้ให้ความรู้ด้านการลงทุนในการวิเคราะห์แบบใช้องค์ความรู้ด้านต่างๆ เพื่อประเมินภาพรวมตลาดตามบทวิเคราะห์ The Big Picture และมีการแนะนำนักลงทุนแบบ Market Theme

นายวิศิษฐ์ กล่าวเสริมว่า ประเมินภาพรวมความเคลื่อนไหวของ SET Index ในเดือนมี.ค.มีโอกาสปรับตัว (Sideways up) ขึ้นทดสอบ 1,350 จุด โดยมีปัจจัยสนับสนุน คือ บรรยากาศการเมืองที่เริ่มคลี่คลายประกอบกับ Valuation gap ระหว่าง SET Index กับดัชนี MSCI World ยังคงอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาว แสดงถึงโอกาสในการปรับตัวขึ้น (Upside) ของดัชนีหุ้นไทยยังมีอยู่ นอกจากนั้นระดับดัชนีหุ้นไทยในปัจจุบันราคาได้สะท้อนปัจจัยทางการเมืองที่เลวร้ายสุดไปแล้ว แต่มีปัจจัยเสี่ยงที่ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ได้แก่ ปัญหาการกู้ยืมและการลงทุนนอกระบบของภาคการเงินจีน ซึ่งอาจทำให้เม็ดเงินลงทุนในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (Emerging Market) มีความผันผวนได้

หุ้นที่เหมาะกับการลงทุนแนะนำหุ้นที่อิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ได้แก่ SCC ราคาเป้าหมาย 540 บาท, CPF ราคาเป้าหมาย 37 บาท หุ้นกลุ่มเดินเรือ ได้แก่ TTA ราคาเป้าหมาย 21.90 บาท หุ้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมืองมากเกินไปในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ INTUCH ราคาเป้าหมาย 100 บาทHMPRO ราคาเป้าหมาย 10.25 บาท, MINT ราคาเป้าหมายแบบ Consensus ที่ 27 บาท และหุ้นกลุ่มที่มีเงินปันผลมั่นคง ได้แก่ GLOW ราคาเป้าหมายยังอยู่ระหว่างการประเมิน, TRUEIF ราคาเป้าหมายยังอยู่ระหว่างการประเมิน กลุ่มสุดท้ายหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและมี High beta ได้แก่ JAS ราคาเป้าหมาย 9.80 บาท และ ANAN ราคาเป้าหมายในระยะกลางแบบ Consensus ที่ 1.73 บาท

ทั้งนี้ ทีมฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ได้ทำการศึกษาและค้นพบว่า การลงทุนในตลาดหุ้นที่มีประสิทธิภาพสูงสุด จะเป็นการลงทุนโดยใช้ “Market Theme" เป็นสิ่งสำคัญ โดยมีระยะการลงประมาณ 1-3 เดือน โดยหุ้นที่แนะนำใน The Big Picture สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ให้ผลตอบแทน +5.5% ในขณะที่ SET Index ให้ผลตอบแทน +4.0% สำหรับ Portfolio ของ The Big Picture ให้ผลตอบแทนทั้งหมด +472% ในระยะเวลา 44 เดือนของการจัดตั้ง เทียบกับ SET index ที่ +66%p

ส่วนผลการดำเนินงานรวมประจำปี 56 มีกำไรสุทธิ 137.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิด 19.04% จากกำไรสุทธิ 115.85 ล้านบาทในปี 55 โดยมีรายได้รวมในปี 56 อยู่ที่ 850.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคิด 25.10% จากรายได้รวมของปีก่อน 680.08 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ