การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,366.06 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,351.84 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 529 หลักทรัพย์ ลดลง 250 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 164 หลักทรัพย์
นายปริญทร์ กิจจาทรพิทักษ์ ผู้บริหารสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์และกลยุทธ์การลงทุน บล.เคทีบี(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวน์ได้ตามที่คาดไว้ จากแรงเก็งกำไรที่เข้ามาในประเด็นการประชุมกนง.ในวันพรุ่งนี้ ซึ่งตลาดฯเก็งว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% และตลาดฯยังมี timing ในการหาจังหวะที่จะเข้าซื้อลงทุนด้วย
นอกจากนี้ ตลาดฯยังเฝ้าจับตาศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีคำวินิจฉัยเรื่องพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทในวันพรุ่งนี้ ซึ่งขณะนี้ตลาดฯได้มองไปในทางลบ คงจะมองจากแรงกดดันทางการเมืองที่มีเข้ามา อย่างไรก็ตามจะต้องรอดูที่สุดแล้วศาลฯจะวินิจฉัยออกมาอย่างไร อีกทั้งยังมีเรื่องโอกาสในการยกเลิกการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ซึ่งคงจะนำเรื่องเข้าพิจารณาในการประชุมครม.ในสัปดาห์หน้า
ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก ซึ่งมองว่าเป็นการรีบาวน์หลังจากที่ตลาดเอเชียได้ตอบรับตัวเลขขาดทุนการค้าของจีนไปแล้ว
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้(12 มี.ค.)นายปริญทร์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งในระหว่างวันตามกระแสข่าวที่เข้ามากระทบ โดยพรุ่งนี้จะต้องติดตามดูการประชุมกนง. และศาลรัฐธรรมนูญที่จะมีคำวินิจฉัยเรื่องพ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทอย่างไร ซึ่งถ้าศาลวินิจฉัยไม่มีปัญหา ดัชนีฯก็มีโอกาสที่จะขึ้นไปทดสอบแนว 1,380 จุด แต่ถ้าศาลวินิจฉัยขัดรัฐธรรมนูญดัชนีฯก็อาจแกว่ง 1,360 จุดบวก/ลบ พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,360-1,380 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,464.05 ล้านบาท ปิดที่ 7.60 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 1,558.42 ล้านบาท ปิดที่ 300.00 บาท เพิ่มขึ้น 9.00 บาท
IVL มูลค่าการซื้อขาย 1,346.85 ล้านบาท ปิดที่ 21.90 บาท เพิ่มขึ้น 1.60 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,313.18 ล้านบาท ปิดที่ 213.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
JAS มูลค่าการซื้อขาย 1,287.62 ล้านบาท ปิดที่ 8.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท