(เพิ่มเติม) PTG เล็งใช้งบลงทุนกว่า 1 พันลบ.ขยายปั๊ม 260 แห่ง-ซื้อรถบรรทุกน้ำมันเพิ่ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 17, 2014 17:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ. พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG) เล็งใช้งบลงทุนกว่า 1 พันล้านบาท ขยายสถานีบริการ 260 แห่ง และซื้อรถบรรทุกน้ำมันเพิ่ม โดยตั้งเป้าปริมาณขายน้ำมันแต่ละปั๊มเพิ่มเป็น 1.7 แสนลิตร/เดือน จากปีก่อน 1.5 แสนลิตร/เดือน ส่งผลให้รายได้รวมปีนี้เติบโต 30% หลัง 2 เดือนแรกเติบโตแล้ว 20% ส่วนความคืบหน้าตั้งคลังน้ำมันแห่งที่ 9 ในภาคอีสานคาดว่านจะสรุปได้ในช่วงเดือนเม.ย.นี้ ขณะที่ผลศึกษาร่วมทุนผลิต B100 และเอทานอล คาดเริ่มได้ในปึนี้เช่นกัน

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ PTG กล่าวว่า บริษัทตั้งงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาทในปีนี้สำหรับขยายสถานีบริการ 260 แห่ง แบ่งเป็นสถานีบริการน้ำมันที่บริษัทดำเนินการเอง(COCO) 230 สาขา และสถานีบริการน้ำมันของตัวแทนจำหน่าย(DODO) อีก 30 สาขา เพื่อที่ในช่วงสิ้นปีนี้จะมีสถานีบริการน้ำมันครบ 1,000 แห่ง จากสิ้นเดือน ธ.ค.56 อยู่ที่ 739 แห่ง และสิ้นเดือน มี.ค.57 จะเพิ่มเป็น 780 แห่ง

พร้อมกันนั้น บริษัทจะลงทุนซื้อรถบรรทุกน้ำมันเพิ่มอีก 60-80 คัน

ทั้งนี้ งบลงทุนดังกล่าวยังไม่รวมแผนการสร้างคลังน้ำมันแห่งใหม่แห่งที่ 9 ในพื้นที่ภาคอีสานตอนใต้ โดยอาจจะตั้งอยู่ใน จ.ร้อยเอ็ด หรือ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาว่าขนาดความจุ คาดว่าจะได้ข้อสรุปราวเดือน เม.ย.57 รวมทั้งบริษัทยังอยู่ระหว่างศึกษาตั้งโรงงานผลิต B100 และเอทานอล ในลักษณะการร่วมทุน โดยคาดว่าจะเห็นการลงทุน B100 ก่อนเพราะการศึกษาใกล้ได้ข้อสรุปในอีก 2-3 เดือน ส่วนเอทานอลคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง

นายพิทักษ์ เปิดเผยอีกว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้รวมในปี 57 เติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้ 47,857 ล้านบาท เป็นการเติบโตตามการขยายสถานีบริการน้ำมัน และยอดการจำหน่ายน้ำมันที่คาดปีนี้จะเพิ่มเป็น 1.7 แสนลิตร/ปั้ม/เดือน จากปีก่อน 1.5 แสนลิตร/ปั้ม/เดือน โดยในช่วง 2 เดือนแรกยอดขายเติบโต 20% จากช่วงเดียวกันปีก่อนแล้ว ถือว่าเป็นไปตามเป้าหมาย หลังจากสถานีบริการน้ำมันค่อยๆทยอยเปิดใหม่เพิ่มขึ้น

ทั้งปี 57 บริษัทตั้งเป้าปริมาณการจำหน่ายน้ำมันรวมเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านลิตร จากปีก่อนอยู่ที่ 1,578 ล้านลิตร ลูกค้าหลักยังเป็นรถบรรทุกขนาดใหญ่ เครื่องจักรกลการเกษตร ภายใต้คาดการณ์ภาพรวมอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี)ของไทยในปีนี้น่าจะทรงตัวหรือเติบโตในช่วง 0-3% ส่วนปัญหาโครงการจำนำข้าวยังไม่มีผลกระทบต่อบริษัท แต่หากสุดท้ายแล้วเกษตรกรไม่สามารถปลูกข้าวได้ก็คงกระทบ แต่เชื่อว่าเมื่อถึงฤดูก็คงต้องปลูกตามปกติ

ขณะที่ในปีนี้ประเมินค่าการตลาดที่เหมาะสมอยู่ที่ 1.50-1.70 บาท/ลิตร ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรสุทธิปีนี้สูงกว่าปีก่อน

"ปีนี้แม้จีดีพีทรงตัว แต่เชื่อบริษัทจะเติบโตได้ 30% เกิดจากการประเมินสาขาที่เพิ่มขึ้นและถ้าเศรษฐกิจเป็นแบบนี้เรายิ่งต้องบริหารต้นทุน ค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ และมีแผนปรับปรุงสาขาให้เป็นภาพลักษณ์ใหม่ครบทุกสาขา"นายพิทักษ์ กล่าว

นายพิทักษ์ ยังเปิดเผยอีกว่า บริษัทได้เซ็นสัญญาให้เช่าพื้นที่กับกรมทางหลวงไว้ 2 แห่งเพื่อเป็นจุดพักรถ ภาคเหนือคือที่ จ.ชัยนาท และภาคใต้ อ.เขาโพธิ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นสัญญาเช่า 10 ปี ซึ่งคงจะมีโครงการต่อ ๆ ไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ