PTG ดึงพันธมิตรร่วมทุน"ปาล์มคอมเพล็กซ์",เล็งเปิดหัวจ่าย LPG-พัฒนาพื้นที่ในปั๊ม

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 8, 2014 12:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี (PTG)เตรียมแผนงานเพื่อขยายธุรกิจครั้งใหญ่ทั้ง Oil และ Non-oil หลังจากที่ผ่านช่วงของการเพิ่มจำนวนสถานบริการน้ำมันทั่วประเทศเพื่อให้แตะ 1 พันแห่งภายในสิ้นปีนี้ โดยขณะนี้กำลังเจรจากับพันธมิตรเพื่อร่วมทุนในโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ที่จะมีการผลิตไบโอดีเซล B100 ตั้งแต่ต้นน้ำ เบื้องต้นคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 3 แสนลิตร/วัน เมื่อเดินเครื่องโครงการดังกล่าวก็จะศึกษาโอกาสทางธุรกิจที่จะผลิตเอทานอลด้วย

พร้อมกันนั้น ยังอยู่ระหว่างการเจรจากับผู้ระกอบการธุรกิจก๊าซ LPG ทั้งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์และนอกตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเตรียมเปิดให้บริการหัวจ่าย LPG ในปั้มน้ำมัน คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในสิ้นปีนี้ก่อนจะเปิดให้บริการได้ในปีหน้า ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างศึกษาการพัฒนาพื้นที่ภายในปั๊มเพื่อใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์หารายได้เสริมเพิ่มเติม หลังจากที่เริ่มตั้งร้านค้าปลีกและร้านกาแฟไปแล้ว ซึ่งน่าจะได้ข้อสรุปในเร็ว ๆ นี้

นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ PTG กล่าวกับ"อินโฟเควสท์"ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อชักชวนเข้ามาร่วมทุนโครงการผลิตไบโอดีเซล B100 ตั้งแต่ต้นน้ำ ภายใต้เงื่อนไขที่บริษัทจะต้องเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่อำนาจในการควบคุมและบริหารไม่ว่าจะมีผู้เข้ามาร่วมทุนกี่ราย คาดว่าจะได้บข้อสรุปภายในครึ่งแรกของปีนี้ พร้อมกับการสรุปขนาดผลิตการผลิตของโครงการดังกล่าว

เบื้องต้นรูปแบบการลงทุนจะมีการตั้งโรงหีบน้ำมันปาล์มเพื่อรับซื้อปาล์มสดจากเกษตรเข้ามาผลิตเป็นน้ำมันปาล์มดิบ และตั้งโรงงานผลิตไบโอดีเซล B100 ขึ้นมารองรับผลผลิตจากโรงงานแรกเข้ามาผลิตเป็น B100 เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซลที่จะมาจำหน่ายในปั๊มน้ำมันของบริษัททั่วประเทศ ซึ่งเมื่อประเมินจากคาดการณ์ปริมาณยอดขายดีเซลในอนาคตที่ปกติจะเติบโตปีละ ประมาณ 30% ก็น่าจะต้องมีกำลังผลิตไม่ต่ำกว่า 3 แสนลิตร/วัน

"เราจะตั้งโรงงานขนาดใหญ่เพื่อผลิต B100 ที่เริ่มผลิตตั้งแต่ต้นน้ำ หรือปาล์มคอมเพล็กซ์ คือเราจะเริ่มตั้งแต่ซื้อทลายปาล์มแล้วนำมาเข้าโรงหีบปาล์ม จนถึงผลิตออกมาเป็น B100 จากที่ปกติเราต้องซื้อ B100 ก็จะช่วยให้เราสามารถลดต้นทุนได้ค่อนข้างมาก"นายพิทักษ์ กล่าว

นายพิทักษ์ กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรเพื่อเชิญชวนเข้ามาลงทุน ซึ่งจะเป็นผู้ที่มีเทคโนโลยีในขั้นตอนต่าง ๆ ของการผลิต ได้แก่ เจ้าของโรงหีบน้ำมันปาล์มขนาดใหญ่ 1 ใน 5 ของประเทศ และผู้ที่อยู่ในธุรกิจผลิตไบโอดีเซล เพื่อที่จะร่วมทุนกันจัดตั้งบริษัทใหม่ โดยการร่วมทุนครั้งนี้บริษัทจะเข้าไปถือหุ้นใหญ่ หรือสัดส่วนอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 25% คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 2 เดือนข้างหน้านี้

"เบื้องต้นเราก็คาดว่าจะร่วมทุนกัน 2 ราย แต่ถ้าหากมีมากกว่า 2 ก็อาจจะเป็นไปได้ เพราะเรายังไม่รู้ว่าขนาดของโครงการจะต้องใหญ่ขนาดไหน เพราะขนาดโครงการไม่ว่าจะใหญ่แค่ไหนเราก็ไม่พอต่อความต้องการ เราขายน้ำมันเพิ่มขึ้นทุกๆปี ถึงแม้ใช้พอปีนี้ แต่ปีหน้าก็ไม่พออยู่ดี ยังไงเราก็จะไม่ถือหุ้นต่ำกว่า 25% แน่นอน"นายพิทักษ์ กล่าว

หลังจากโครงการ B100 เริ่มเดินเครื่องแล้ว บริษัทก็จะศึกษาโอกาสการผลิตเอทานอล โดยขณะนี้ได้พิจารณาความเป็นไปได้ในเบื้องต้นที่ร่วมทุนผลิตเอทานอลจากกากน้ำตาล(โมลาส) เนื่องจากในประเทศมีโรงงานน้ำตาลทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ค่อนข้างมาก เชื่อว่าจะมีวัตถุดิบป้อนให้กับโรงงานของบริษัทได้เพียงพอ

*เปิดหัวจ่าย LPG-เล็งหารายได้เพิ่มจากพื้นที่ว่างในปั๊ม

นายพิทักษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากบริษัทสามารถเพิ่มจำนวนปั๊มน้ำมันได้อย่างต่อเนื่อง จึงได้เริ่มต้นพิจารณาการใช้พื้นที่ปั๊มในรูปแบบต่างๆ เพื่อหารายได้ในเชิงพาณิชย์เข้ามาเสริมรายได้หลักเพิ่มเติม โดยขณะนี้ได้มองไปที่การเพิ่มหัวจ่ายเพื่อจำหน่ายก๊าซ LPG ซึ่งบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับผู้ประกอบการก๊าซ LPG ทั้งที่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศและบริษัทนอกตลาดฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในช่วงปลายปีนี้

เบื้องต้นบริษัทฯจะออกแบบให้สามารถจำหน่ายทั้งน้ำมัน และก๊าซ LPG ในปั้มเดียวกัน ทั้งในสถานีบริการน้ำมันที่บริษัทฯดำเนินการเอง(COCO) และสถานีบริการน้ำมันของตัวแทนจำหน่าย(DODO) ขณะเดียวกันก็อยู่ระหว่างการศึกษาการตั้งคลังสำรองก๊าซ LPG ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อป้อนให้กับปั๊ม PT ด้วย

"ปลายปีนี้เราก็คงจะได้ข้อสรุป การขายก๊าซในปั้ม เราก็อยู่ระหว่างเจรจากับบริษัทฯที่ขายก๊าซอยู่ เราก็มีทางเลือก 3 แนวทาง คือ ซื้อมาขายไป หรือรับแบรนด์ของบริษัทฯอื่นมาขาย หรือจะทำเอง ซึ่งเรามองว่าการทำก๊าซนั้นง่ายกว่าการจำหน่ายน้ำมันเพราะมีกำไรแน่นอน 2 บาท/ลิตร และไม่มีความต่างเรื่องของคุณภาพ เพราะก๊าซคุณภาพทุกที่ออกมาเหมือนกันหมด ไม่ต้องมาแข่งขันกันเรื่องคุณภาพ จะเติมปั้มไหนๆ ก็เหมือนกันทั้งนั้น"นายพิทักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ บริษัทฯยังศึกษาการขยายธุรกิจ Non-Oil หลังจากที่เริ่มทะยอยเปิดร้านสะดวกซื้อและร้านกาแฟภายในปั๊มแล้ว จะมีการพัฒนาพื้นที่ที่เหลือในรูปแบบอื่นๆ ที่จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทเนื่องจากมีปริมาณปั๊มทั่วประเทศถึงระดับที่มากพอสมควรแล้ว เช่น การให้เช่าพื้นที่ตั้งป้ายโฆษณา การตั้งศูนย์บริการรถยนต์ การให้เช่าพื้นที่ตั้งร้านค้าอื่นๆ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้

"สิ้นปีนี้เราก็หน้าจะมีปั้มถึง 1 พันปั้ม ซึ่งเราก็จะมีพื้นที่จำนวนมาก ยังสามารถมาพัฒนาให้เป็นเชิงพาณิชย์ได้ อาทิ ป้ายโฆษณา ใครที่อยากโฆษณาให้เห็นพร้อมกันทั่วประเทศ ใน 1 พันปั้มก็เป็นไปได้ หรือจะเปิดเป็นแผงให้เช่าขายลอตเตอรี่ในปั้มก็ได้ อีกไม่นานก็คงจะเริ่มเห็น"นายพิทักษ์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ