(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าแกว่งไซด์เวย์-วอลุ่มบางช่วงใกล้หยุดยาวสงกรานต์

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday April 9, 2014 09:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ และวอลุ่มเทรดคงน้อยลง เนื่องจากใกล้เข้าสู่วันหยุดระยะยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทำให้นักลงทุนชะลอการลงทุน ขณะที่สถานการณ์การเมืองในประเทศช่วงนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เปิดในแดนบวกเล็กน้อย มองว่าเป็นการรีบาวด์ขึ้นหลังติดลบไปในช่วงก่อนหน้านี้

"เมื่อวานนี้ตลาดฯปรับตัวลงแรงในช่วงท้ายตลาด มองว่าเป็นการ take profit เพราะใกล้ถึงวันหยุดยาว"นายเกษม กล่าว

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,375-1,390 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คเมื่อวานนี้(8 เม.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 16,256.14 จุด เพิ่มขึ้น 10.27 จุด (+0.06%) ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 1,851.96 จุด เพิ่มขึ้น 6.92 จุด(+0.38%),ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 4,112.99 จุด เพิ่มขึ้น 33.24 จุด(+0.81%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้านี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 170.83 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.37 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 128.46 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 24.14 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.95 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 1.01 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 0.50 จุด

ส่วนตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันแห่งความกล้าหาญ

  • ตลาดหุ้นไทยปิดเมื่อวานนี้(8 เม.ย.)ที่ 1,379.34 จุด ลดลง 12.67 จุด (-0.91%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,362.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 8 เม.ย.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(8 เม.ย.)ที่ 102.56 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 2.12 ดอลลาร์ฯหรือ 2.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(8 เม.ย.)ที่ 6.74 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้แข็งค่าผ่าน 32.30 มาที่ 32.15 ตามภูมิภาค
  • ไอเอ็มเอฟหั่นเศรษฐกิจโลกเหลือ 3.6% เหตุวิกฤติยูเครน ด้านภาคเอกชนประเมินเศรษฐกิจเริ่มฟื้นไตรมาส 2 จากภาคส่งออกเป็นหลัก ตามการฟื้นตัวตลาดโลกเลิกหวังแก้ความขัดแย้งการเมือง ขณะ ส.อ.ท.เริ่มกังวลบัณฑิตใหม่ตกงานนับแสน จากธุรกิจชะลอการลงทุน
  • ค่าครองชีพประชาชนปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังราคาสินค้าแทบทุกรายการปรับขึ้นอย่างรวดเร็วล่าสุดราคาหมูแพงที่สุดในรอบ 3 ปีจำหน่ายที่กิโลกรัมละ 160-165 บาททำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องต้องปรับราคาขึ้นจนกระทบต่อปากท้องประชาชน
  • สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย เปิดเผยว่า ผลจากการที่บริษัท เจแปน เครดิต เรตติ้งเอเจนซี่ มีการปรับมุมมองที่เป็นลบต่อเครดิตประเทศไทย เนื่องมาจากปัญหาการเมืองจะทำให้ยอดเม็ดเงินต่างชาติไหลออกสุทธิจากตราสารหนี้ระยะยาวของทั้งปี 2557 มากกว่าที่ตั้งไว้ 1 แสนล้านบาท
  • "กิตติรัตน์ ณ ระนอง"รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวยอมรับว่ามีความเป็นห่วงในการจัดเก็บรายได้ของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2557 ว่าอาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าจะสามารถจัดเก็บรายได้รวม 2.275 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นจากปีงบประมาณ 2556 ที่จัดเก็บรายได้รวม 2.1 ล้านล้านบาทประมาณ 1.75 แสนล้านบาท ซึ่งจะกระทบต่อฐานะการคลังของประเทศ
  • อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมได้หารือร่วมกับกรมบัญชีกลางและกระทรวงการคลังแล้ว เนื่องจากเหลือเงินจ่ายคืนผู้ที่ได้สิทธิในโครงการรถยนต์คันแรก 9,217 ล้านบาทนั้น ไม่เพียงพอจ่ายจนครบในปีงบประมาณ 57 ดังนั้น อาจต้องเสนอไปที่ประชุม ครม.เพื่อขอใช้เงินงบกลางหรือเงินคงคลังอีก 10,000 ล้านบาท และหลังจากนั้นคงต้องเสนอไปให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พิจารณาและเห็นชอบ เพราะวงเงินดังกล่าวเป็นการขอใช้ช่วงรัฐบาลรักษาการ

*หุ้นเด่นวันนี้

  • HMPRO(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 11.40 บาท ประเมินกำไรสุทธิ 1Q57 ที่ 734 ล้านบาท แม้เทียบ Q0Q จะลดลง 21% แต่เป็นบริษัทเดียวในกลุ่มฯที่คาดว่าจะเห็นกำไรเติบโต YoY ราว 6% ขณะที่ระยะสั้นราคาหุ้นมีปัจจัยหนุนจากการจ่ายปันผลเป็นเงินสดและหุ้นเป็นครั้งที่ 8 ติดต่อกัน ขึ้น XD 18 เม.ย.57 เป็นเงินสดหุ้นละ 0.0159 บาท และหุ้นปันผล 7 หุ้นเดิม ต่อ 1 หุ้นปันผล จากสถิติ ณ วันขึ้น XD ใน 7 ครั้งที่ผ่านมาราคาหุ้นลงน้อยกว่าราคาตามทฤษฎี
  • AOT(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 220 บาท เหตุวุ่นวายที่สนามบินหาดใหญ่ไม่กระทบการดำเนินงาน ขณะที่ 6 เดือนที่ผ่านมา(ต.ค.56-15 มี.ค.57)จำนวนผู้โดยสารสนามบินหลักในภาคเหนือและภาคใต้ช่วยชดเชยสุวรรณภูมิที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยการเมือง ยังคงเป้าเติบโตจำนวนผู้โดยสารปี 57 ที่ระดับเดิม ปัจจัยหนุนจากการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และ High Season ของธุรกิจช่วงครึ่งของปี คาดว่าจำนวนผู้โดยสารใน 2H57 และทั้งปี 57 จะโต 19%YoY และ 12%YoY ตามลำดับ
  • SAMART(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"ราคาเหมาะสม 24.40 บาท คาดกำไรสุทธิ 1Q57 จะเติบโตทั้ง yoy และ qoq ประเมินเบื้องต้นที่ 380-390 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 1Q56 ที่ 353 ล้านบาท และ 4Q56 ที่ 365 ล้านบาท ทิศทางกำไร 2Q57 คาดขยายตัวต่อเนื่อง qoq จากแรงผลักดันของยอดขาย Set Top box ที่ทดลองออกอากาศทีวีดิจิตอล 1 เม.ย. และออกอากาศอย่างเป็นทางการ 1 มิ.ย.ราคาหุ้นมีปัจจัยบวกรออยู่คือการประชุมผู้ถือหุ้น 29 เม.ย.ออกหุ้นกู้ 5,000 ล้านบาท พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 57 จะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ 1,725 ล้านบาท +18% yoy และยังมี Valuation ที่ค่อนข้างถูก

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ