GOLD คงเป้าเปิดโครงการใหม่ปีนี้ 11 แห่ง รวมกว่า 1 หมื่นลบ.คาด Q3 ฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 21, 2014 15:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายแสนผิน สุขี กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้นแลนด์ เรสซิเด้นซ์ จำกัดซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ บมจ. แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลล็อปเม้นท์ (GOLD) กล่าวถึงแผนในปี 57 ว่า GOLD ยังคงเป้าการเปิดโครงการตามแผนเดิมที่ 11 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ครอบคลุมทำเลศักยภาพ ได้แก่ ติวานนท์ บางนา ปิ่นเกล้า ลาดปลาเค้า รัตนาธิเบศร์ วัชรพล สุขสวัสดิ์ และรามคำแหง โดยใช้แนวคิดในการพัฒนาโครงการที่สมบูรณ์แบบกว่าในราคาที่สามารถเป็นเจ้าของได้(An Affordable Stylish Living) 4ประการ ได้แก่ 1.การผสานนวัตกรรมเข้าไปในทุกขั้นตอนการออกแบบบ้านและฟังก์ชั่น 2.เลือกทำเลที่ตั้งโครงการที่มีศักยภาพ 3.พัฒนาโดยคำนึงถึงไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย 4.ราคาสามารถแข่งขันในตลาดได้

ทั้งนี้ โครงการในโกลเด้นซีรี่ย์ล่าสุดเตรียมเปิดขายในเดือน เม.ย.นี้ ได้แก่ โกลเด้นทาวน์ ปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ โครงการทาวน์โฮม 2 ชั้นและ 3 ชั้นหน้ากว้างพิเศษในพื้นที่ 42 ไร่จำนวน 418 ยูนิต มูลค่า 1,100 ล้านบาท บนถนนบางกรวย-ไทรน้อย ราคาเริ่มต้นที่ 1.95 ล้านบาทเปิดขาย Pre-Sale 26-27 เม.ย.57

นายแสนผิน ยังกล่าวว่า สถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอันเกิดจากการเมืองไม่ชัดเจนในขณะนี้ส่งผลต่อภาพรวมภาคธุรกิจทำให้กำลังซื้อของผู้บริโภคชะลอตัวลงเพื่อประเมินสถานการณ์ในช่วงไตรมาส 1/57 ต่อเนื่องจากปลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคอนโดมิเนียมโดยภาพรวมของไตรมาส 1/57 ทั้งยอดขายและจำนวนการเปิดตัวโครงการของคอนโดมิเนียมลดลง 20-30% รวมถึงการโอนกรรมสิทธิ์ก็ชะลอตัวลงเช่นกันโดยจำนวนคอนโดมิเนียมที่จะเปิดในปีนี้คาดว่าจะไม่เกิน 70,000 ยูนิต

แต่โครงการแนวราบจะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 30,000 ยูนิตส่งผลให้เติบโตขึ้นประมาณ 5%ซึ่งเกิดจากผู้ประกอบการหันมาทำโครงการแนวราบมากขึ้น เนื่องจากคอนโดมิเนียมรับรู้รายได้เมื่อการก่อสร้างแล้วเสร็จใช้เวลา 2-3 ปีในขณะที่โครงการแนวราบบ้านเดี่ยวทาวน์เฮาส์จะรับรู้รายได้ในรอบปีทำให้ปลอดภัยกว่าในภาวะตลาดไม่แน่นอนซึ่งเชื่อมั่นว่าจะเห็นตัวเลขการเปิดตัวโครงการที่มากขึ้นในไตรมาส 3 อย่างชัดเจน

นายแสนผิน กล่าวว่า ปัจจุบันยอดปฏิเสธสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยของธนาคารพาณิชย์มียอดปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจาก 20-25% เป็น 25-30%โดยกระบวนการพิจารณามีความละเอียดถี่ถ้วนขึ้นมีการตรวจสอบลูกค้าเพิ่มมากขึ้นทำให้ระยะเวลาการอนุมัติล่าช้ากว่าเดิมซึ่งอาจส่งผลทำให้ผู้ประกอบการในหลายๆบริษัทยอดโอนไม่เป็นไปตามเป้าหมายแต่ส่วนตัวมองว่า เป็นโอกาสที่ดีในการคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพทางการเงิน ลดความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งกับผู้ซื้อ ผู้ขาย และอุตสาหกรรมโดยรวม

ปัจจัยบวกต่อธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีดังนี้ 1.อัตราเงินเฟ้อทั้งประเทศยังมีแนวโน้มทรงตัวอยู่ในระดับต่ำคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 1.9-2.9% เทียบกับปี 56 ซึ่งอยู่ที่ 2.2% 2.อัตราดอกเบี้ย MLR เฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ที่ปรับตัวลดลงจาก7.00-7.38%ในไตรมาสก่อนหน้าเป็น 6.75-7.37% ต่อปีจากกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล 3.ภาพรวมดัชนีราคาค่าก่อสร้างปี 56 เทียบกับไตรมาสแรกของปี 57 ค่อนข้างคงที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยราคาค่าก่อสร้างบ้านมาตรฐานของไตรมาส 1/57 เท่ากับ131.3%ปรับลดลง0.1%เมื่อเทียบกับไตรมาส 4/56 และเมื่อเทียบกับไตรมาส 1/56 ดัชนีราคาค่าก่อสร้างเท่ากัน ทำให้ราคาบ้านจะไม่ปรับเพิ่มสูงมากสามารถแข่งขันได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ