(เพิ่มเติม) SPCG คาดรายได้ปี 58 แตะ 4.5-5 พันลบ.จาก 3.5 พันลบ.ปีนี้,กำไรปีนี้ก้าวกระโดด

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday May 21, 2014 12:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.เอสพีซีจี (SPCG) คาดรายได้ ปี 58 แตะ 4.5- 5 พันล้านบาท จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 3.5 พันล้านบาท ซึ่งเติบโต 40% จากปี 56 ขณะที่กำไรสุทธิปีนี้โตก้าวกระโดด จากการรับรู้รายได้โครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 36 โครงการ คาดว่าช่วงครึ่งหลังของปี 57 จะสามารถจ่ายปันผลตามนโยบายที่กำหนดจ่าย 40% ของกำไรสุทธิได้ หลังสามารถนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นกู้มาชำระคืนหนี้ส่วนทุนจำนวน 2.5 พันล้านบาทได้หมด และจะนำเงินทีเหลือไปลงทุนขยายโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ อาทิ ญี่ปุ่น, อาเซียน และตะวันออกกลาง พร้อมตั้งเป้ากำลังการผลิตไฟฟ้าภายใน 5 ปีข้างหน้าแตะ 500 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่ 260 เมกะวัตต์

น.ส.วันดี กุญชรยาคง กรรมการผู้จัดการใหญ่ SPCG เปิดเผยว่า มั่นใจว่ารายได้ปีนี้จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมาอยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 3.5 พันล้านบาท หรือเติบโตราว 40% จากปีก่อนที่มีรายได้ราว 2.5 พันล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิราว 499 ล้านบาท เนื่องจากในปีนี้จะรับรู้รายได้โซลาร์ฟาร์มครบทั้ง 36 โครงการ โดยปัจจุบันสามารถจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้แล้ว 33 โครงการ ซึ่งอีก 3 โครงการ คือ โครงการ ขอนแก่น 6, สุรินทร์ 1 และ สุรินทร์ 2 จะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาส 2/57 ทั้งหมด จึงจะส่งผลให้บริษัทมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวม 260 เมกะวัตต์ในปีนี้

สำหรับปี 58 บริษัทคาดว่ารายได้จะอยู่ที่ราว 4.5-5 พันล้านบาท เนื่องจากจะสามารถรับรู้รายได้จากทั้ง 36 โครงการเข้ามาเต็มที่ทั้งปี นอกจากนี้เชื่อว่าจะมีการเติบโตตามการเพิ่มของค่าไฟฟ้าที่การไฟฟ้าเรียกเก็บเพิ่มขึ้น (FT)

น.ส.วันดี กล่าวว่า จากการที่บริษัทได้ออกหุ้นกู้มูลค่า 4 พันล้านบาท โดยเสนอขาย 3.5 พันล้านบาท และเป็นหุ้นกู้สำรองสำหรับเสนอขายเพิ่มเติมอีกจำนวนไม่เกิน 500 ล้านบาท บริษัทฯจะนำเงินมาใช้ชำระหนี้ส่วนทุนของบริษัท โซล่า เพาเวอร์ จำกัด มูลค่ากว่า 2.5 พันล้านบาท ซึ่งจะชำระทั้งหมดทันที หลังจากชำนั้นบริษัทจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลของงบประมาณช่วงครึ่งปีหลังทันที ภายใต้นโยบายจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

ในขณะเดียวกัน จะส่งผลให้อัตราหนี้สินต่อทุนปีนี้ลดต่ำลงไปอยู่ที่ระดับไม่ถึง 4 เท่า จาก ณ สิ้นปี 56 อยู่ที่ 4.7 เท่า นอกจากนี้ภาระดอกเบี้ยจ่ายจะลดลงถึง 50%โดยจากเดิมต้องชำระดอกเบี้ย 300 ล้านบาท/ปี จะลดลงมาอยู่ที่ราว 150 ล้านบาท/ปี

สำหรับเงินที่เหลือจากการออกหุ้นกู้มูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท บริษัทจะนำไปใช้ในการลงทุนโครงการทั้นในประเทศ และต่างประเทศ ทั้งตะวันออกกลาง พม่า ลาว และกัมพูชา โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมภายใน 5 ปี เพิ่มขึ้นเป็นไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์ อีกทั้งบริษัทยังหวังที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในโครงการ 1 ตำบล 1 เมกะวัตต์ ซึ่งทั้งโครงการมี 800 เมกะวัตต์ โดยบริษัทหวังที่จะมีส่วนในโครงการนี้ราว 500 เมกะวัตต์ คาดว่าจะมีความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้

"พอเราชำระหนี้ส่วนทุนทั้งหมดแล้ว เราก็จะพิจารณาในการจ่ายปันผลสำหรับงบประมาณครึ่งปีหลังทันที และเงินส่วนที่เหลือจากการออกหุ้นกู้เราก็ยังมีแผนที่จะลงทุนเพิ่มเติมทั้งในและต่างประเทศ และจากเป้าการเติบโตของเรายังต้องลงทุนอีกมาก ซึ่งเราก็ได้ขอการเสนอขายหุ้นแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ไว้ 84 ล้านหุ้น ซึ่งจะออกเมื่อไหร่เราก็ต้องรอดูภาวะตลาดก่อน ถ้าเป็นไปได้ปีนี้ถ้าภาวะตลาดได้ เราก็คงออกทันที"น.ส.วันดี กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ