โบรกฯเชียร์"ซื้อ"AOT มองฟื้นเร็วหากการเมืองคลี่คลาย-พื้นฐานดี

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 22, 2014 10:27 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกฯต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.ท่าอากาศยานไทย(AOT)ช่วงสั้นอาจจะได้รับแรงกดดันทางการเมืองหลังประกาศใช้กฎอัยการศึก แต่คงจะกระทบเล็กน้อย เหตุเป็นช่วง Low Season แต่หากการเมืองคลี่คลายได้เร็ว ธุรกิจก็จะฟื้นตัวเร็วด้วย อีกทั้งราคาหุ้นก็ปรับตัวลงไปมากแล้ว

งวดปีนี้(ต.ค.56-ก.ย.57)AOT จะยังมีผลการดำเนินงานที่เติบโตดี แม้เผชิญกับปัญหาทางการเมือง คาดกำไรปกติปีนี้จะเติบโตจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น, การเปิด Terminal 2 ของสนามบินดอนเมืองปลายปีนี้, เที่ยวบินเพิ่มขึ้นจากที่สายการบินขยายฝูงบินอย่างต่อเนื่อง งวดครึ่งปีแรก(ต.ค.56-มี.ค.57)คาดจำนวนผู้โดยสารเติบโต 5% yoy และเที่ยวบินเติบโต 14% yoy ส่วนคาดการณ์จำนวนผู้โดยสารทั้งปีเติบโตประมาณ 5-7% yoy

นอกจากนี้ AOT ก็ยังมีรายได้จากทางอื่นๆ เพิ่มจากปีก่อน เช่น การ Discount ให้กับสายการบินไทย แอร์เอเชีย ที่ผ่านมา 30% แต่ปีนี้จะ Discount ลดลงมาเหลือ 20% เป็นต้น

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิงวดปีนี้(ต.ค.56-ก.ย.57)ไว้ในช่วง 12,294-12,800 ล้านบาท ลดลงจากปี 56 ที่มีกำไรสุทธิ 16,347 ล้านบาท เนื่องจากในปีก่อน AOT มีการรับรู้รายการพิเศษมาก ทั้งกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา(FX)และการกลับรายการด้อยค่าสินทรัพย์ รวมประมาณ 6,400 ล้านบาท แต่หากมองที่กำไรปกติจะเห็นได้ว่าปีนี้ยังคงเติบโตจากปีที่แล้ว

          โบรกเกอร์           คำแนะนำ   ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          บล.เออีซี              ซื้อ           250
          บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส     ซื้อ           237
          บล.ไทยพาณิชย์          ซื้อ           235
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส       ซื้อ           230
          บล.เอเชีย พลัส         ซื้อ           230
          บล.ซีไอเอ็มบี           ซื้อ           218

นายอำนาจ โงสว่าง ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ช่วงสั้น AOT อาจจะได้รับแรงกดดันทางการเมืองหลังจากที่ได้มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก แต่ก็เป็นผลกระทบแต่เพียงเล็กน้อย เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วง Low Season อยู่แล้ว แต่หากสถานการณ์ยืดเยื้อก็จะส่งผลต่อภาพลักษณ์ที่ไม่ดี แต่เมื่อไรที่การเมืองคลี่คลายได้ทุกอย่าง เชื่อว่า AOT จะกลับมาเติบโตได้ตามปกติ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาในการคลี่คลายได้ประมาณ 3 เดือน

สำหรับที่ยังแนะนำ"ซื้อ"หุ้น AOT อยู่ เนื่องจาก AOT ปีนี้จะยังมีการเติบโตที่ดี แม้จะต้องเผชิญกับปัญหาทางการเมือง โดยปีนี้กำไรปกติคาดว่าจะยังเติบโตจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น จากการเปิด Terminal 2 ที่สนามบินดอนเมืองช่วงปลายปีนี้ ทำให้จำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น เพราะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณ 28 ล้านคนต่อปี จากเดิม 16 ล้านคนต่อปี นอกจากนี้ ปีนี้คงจะเที่ยวบินที่เพิ่มขึ้นพอสมควรจากที่สายการบินขยายฝูงบินต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสายการบินไทย แอร์เอเชีย, สายการบินนกแอร์ เป็นต้น

ทั้งนี้ ในงวดครึ่งปีแรก(ต.ค.56-มี.ค.57)มีจำนวนผู้โดยสารเติบโต 5% yoy และเที่ยวบินมีการเติบโต 14% yoy

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิงวดปีนี้ไว้ที่ 12,700 ล้านบาท ลดลงจากงวดปี 56 ที่มีกำไรสุทธิ 16,347 ล้านบาท เนื่องจากปีก่อน AOT รับรู้รายการพิเศษมากทั้งกำไรจาก FX และการกลับรายการด้อยค่าสินทรัพย์ รวมประมาณ 6,400 ล้านบาท แต่หากมองที่กำไรปกติจะเห็นได้ว่าปีนี้ยังคงเติบโตมากกว่าปีที่แล้ว

ด้านนายกวี มานิตสุภวงษ์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เอเชีย พลัส กล่าวว่า ในแง่ของปัจจัยพื้นฐานของ AOT ถือว่ายังดีอยู่ แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นในขณะนี้ จึงยังไม่มีความมั่นใจเพราะไม่รู้ว่าการประกาศใช้กฎอัยการศึกจะนานแค่ไหน และหากยืดเยื้อนานเกินไปอาจทำให้ต่างชาติกลัวได้ ดังนั้น หากจะเข้าลงทุนควรรอให้การเมืองคลี่คลายก่อนค่อยซื้อ Sentiment เวลานี้ของ AOT จึงแนะนำแค่"Wait & See"แต่หากปัญหาการเมืองสามารถคลี่คลายได้เร็ว ก็จะทำให้ธุรกิจของ AOT ฟื้นตัวได้เร็วด้วย เพราะผูกขาดเรื่องการใช้สนามบินอยู่แล้ว และจำนวนผู้โดยสารก็คงจะค่อย ๆ ฟื้นตัวได้หลังการเมืองคลี่คลาย อย่างไรก็ดี ขณะนี้คาดการณ์ว่าจำนวนผู้โดยสารปีนี้คงจะเติบโตประมาณ 6-7% yoy โดยในงวดครึ่งปีแรก(H1/57)จำนวนผู้โดยสารเติบโตประมาณ 5%

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(ปิดงบฯ ต.ค.56-ก.ย.57)ไว้ที่ 12,800 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้วที่มี 16,346 ล้านบาท เนื่องจากปีที่แล้ว AOT มีการรับรู้รายการพิเศษจาก FX และรายการพิเศษอื่น รวมราว 6,300 ล้านบาท หากมองที่กำไรก่อนรายการพิเศษจะมี 9,900 ล้านบาท จึงเห็นได้ว่าปีนี้ AOT จะยังมีกำไรเติบโตจากการดำเนินงานอยู่

ส่วน น.ส.นลิน วิริยะเสถียร นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย)ให้เหตุผลว่า AOT ยังมีการเติบโตที่ดีอยู่ และเมื่อปัญหาทางการเมืองจบลงจะเป็นหุ้นตัวแรก ๆ ที่จะกลับมา ซึ่งราคาหุ้นก็ได้ปรับตัวลงไปมากแล้วด้วย และ AOT ก็กำลังจะเปิด Terminal 2 ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งจะสามารถรองรับการเติบโตได้ในอนาคต

แม้จำนวนผู้โดยสารอินเตอร์ฯจะปรับตัวลง อันเป็นผลจากสถานการณ์ทางการเมือง แต่จำนวนผู้โดยสารภายในประเทศยังมีการเติบโตอยู่ ซึ่งจำนวนผู้โดยสารปีนี้โดยรวมคาดว่าจะเติบโต 5% และปีนี้ AOT ก็ยังมีรายได้จากทางอื่น ๆ ด้วย อย่างเช่น การ Discount ให้กับสายการบินไทย แอร์เอเชีย ที่ผ่านมา 30% แต่ปีนี้จะ Discount ลดลงมาเหลือ 20% เป็นต้น

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้(ต.ค.56-ก.ย.57)ไว้ที่ 12,294 ล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 16,347 ล้านบาท เนื่องจากปีที่แล้วมีการับรู้รายการพิเศษกว่า 6,000 ล้านบาท หากไม่คิดรายการพิเศษ ทาง AOT ก็ยังมีการเติบโตในปีนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ