(เพิ่มเติม) AHปรับเป้ารายได้ปีนี้ลดลงเพิ่มเป็น 10-15% กำไรร่วงรับผลอุตฯยานยนต์ชะลอ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 29, 2014 11:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.อาปิโก ไฮเทค(AH) ปรับเป้ารายได้ในปีนี้ลดลงมากขึ้นเป็น 10-15% จากเดิมที่คาดว่าจะลดลงราว 5-10% และคาดว่าในแง่กำไรน่าจะลดลงมากกว่ารายได้ รับผลกระทบภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ และผลจากนโยบายรถคันแรกที่สิ้นสุดลงไป อย่างไรก็ตาม บริษัทฯยังคงขยายการลงทุนตามแผนที่กำหนดงบประมาณไว้ราว 500-600 ล้านบาทในปีนี้ รวมทั้งการเจรจาโครงการร่วมทุนในจีน อินโดนีเซีย และอินเดีย ก็ยังเดินหน้าต่อไป

นายเย็บ ซู ชวน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AH กล่าวว่า บริษัทปรับลดเป้ารายได้จากที่ช่วงต้นปีเคยมองว่ารายได้อาจจะลดลงราว 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 1.6 หมื่นล้านบาท โดยขณะนี้คาดว่ารายได้อาจจะลดลงถึง 10-15% หลังจากประเมินว่าภาพรวมอุตสาหกรรมรถยนต์ในปีนี้จะชะลอตัวราว 10% ตามภาวะเศรษฐกิจของประเทศ

รวมถึงได้รับกระทบจากสถานการณ์การทางการเมืองที่ทำให้การสนับสนุนจากภาครัฐโครงการต่างๆของอุตสาหกรรมยานยนต์ต้อง โดยเฉพาะอีโคคาร์ ชะงักไป แม้ว่าภาคการส่งออกของอุตสาหกรรมยานยนต์ยังเติบโตได้ แต่เมื่อเทียบกับปีก่อนแล้วยังอยู่ในระดับที่ต่ำพอสมควร แต่อย่างไรก็ตาม มองว่าภาพรวมทางเศรษฐกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้ดีในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากที่มีคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เข้ามาช่วยผลักดันให้นโยบายต่างๆ ขับเคลื่อนไปได้

ขณะที่ในแง่ของกำไรคาดว่าอาจจะลดลงในอัตราที่มากกว่ารายได้ ซึ่งบริษัทใช้กลยุทธ์การลดต้นทุน และลดปริมาณการใช้บุคลากร รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต โดยในปีนี้ได้ตั้งงบลงทุนไว้ราว 500-600 ล้านบาทใช้ในการปรับปรุงเครื่องจักรและซื้อเครื่องจักรใหม่ ซึ่งก็ยังคงเดินหน้าต่อไป

"ภาพรวมปีนี้มองว่ารายได้จะลดลงเป็น 10-15% และกำไรก็จะลดลงตามรายได้ที่ลดลง เนื่องจากอีโคคาร์ไม่มี ซึ่ง 6 เดือนที่ผ่านมา ไม่มีใครได้ทำอะไรเลย แต่ขณะนี้ที่มีรัฐบาลทหารเข้ามาจะส่งผลดีต่อนโยบายผลักดันโครงการต่างๆ ให้เดินหน้าไปได้ ทั้งโครงการใหม่และโครงการเดิมที่ถูกระงับไป เราก็จะมีการผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ได้เพิ่มขึ้น โดยมองว่าไตรมาส 3 ถึงไตรมาส 4 นี้น่าจะมีโอกาสที่คนจะมีเงินออกมาจับจ่ายมากขึ้น"นายเย็บ ซู ชวน กล่าว

นายเย็บ ชู ชวน กล่าวว่า บริษัทยังเดินหน้าการหาพันธมิตรในต่างประเทศเพื่อทำโครงการร่วมทุน คือ ประเทศจีน อินเดีย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ซึ่งมองว่าเป็นประเทศที่ยังมีศักยภาพในการเติบโต นอกเหนือจากที่บริษัทฯได้มีความร่วมมือกับพันธมิตรจากญี่ปุ่นและโปรตุเกสไปแล้วก่อนหน้านี้

"เรายังมีแผนการออกไปสร้างโรงงานในต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงในประเทศ แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการย้ายฐานการผลิตแน่นอน เนื่องด้วยประเทศไทยมีบุคคลากรที่มีคุณภาพ มีทรัพยากรที่ดี มีการผลิตรถยนต์ได้มากที่สุด โดยในอีก 10-20 ปี ต่างชาติที่ได้ลงทุนในไทยยังไงก็ยังคงใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลัก"ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AH กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ