บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี เตรียมขาย IPO 450 ล้านหุ้นเข้าตลาด MAI

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 19, 2014 11:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บล.โนมูระ พัฒนสิน ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) เปิดเผยว่า บริษัทยื่นแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง) ของบมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 450 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 20.45 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้

ปัจจุบัน บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี มีทุนจดทะเบียนที่ออกและชำระแล้ว 175 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.75 พันล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท โดยมีกลุ่มบมจ. เอ็ม.วี.ที. คอมมิวนิเคชั่น ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 22.86 และมีนายโสมพัฒน์ และนางวัลลภา ไตรโสรัส บุตรเขยและบุตรสาวของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 30

ทั้งนี้ บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพสูง สำหรับระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท และธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่างๆ ทั้งในด้านพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Power) พลังงานลม (Wind Power) และพลังงานชีวมวล (Bio Mass Power) ผ่านการถือหุ้นในบริษัทย่อยทั้ง 6 บริษัท ซึ่งประกอบด้วย บริษัท กันหา โซล่าพาวเวอร์ จำกัด บริษัท กรีนไบ-โอ มหาสารคาม จำกัด บริษัท วินด์โกกรีน จำกัด บริษัทโซล่าร์โกกรีน จำกัด บริษัท ไบโอโกกรีน จำกัด บริษัท เพาเวอร์ วี กรีน จำกัด และลงทุนในบริษัทอื่น 1 บริษัท ได้แก่ บริษัท พีวี กรีน จำกัด ที่ถือหุ้นอยู่ 19.99%

สำหรับเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ จะนำไปลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลขนาด 990 กิโลวัตต์ 1 โครงการ จำนวน 40 ล้านบาท ส่วนที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป

ด้านนายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร PSCT กล่าวว่า การดำเนินงานของบริษัทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจการออกแบบ จำหน่ายและติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อม เช่น การออกแบบระบบสำรองไฟฟ้า ระบบการตรวจวัดและจัดการสภาพแวดล้อม ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และระบบประหยัดพลังงานและระบบอื่นๆ รองรับความต้องการของลูกค้ากลุ่มสื่อสารโทรคมนาคมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน

ส่วนธุรกิจโรงไฟฟ้าและพลังงานทดแทน เป็นการลงทุนผ่านบริษัทย่อยทั้ง 6 แห่ง เพื่อผลิตไฟฟ้าและจำหน่ายเชิงพาณิชย์ให้แก่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวงตามสัญญาซื้อขาย ซึ่งปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จำนวน 4 แห่ง 5 โครงการ ได้แก่ โรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ที่จังหวัดอุดรธานี 2 โครงการ ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ 1.966 เมกะวัตต์ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 952 กิโลวัตต์ ที่จังหวัดมหาสารคาม โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา ขนาด 987.84 กิโลวัตต์ ที่จังหวัดสมุทรสงครามและยังมีโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 980 กิโลวัตต์ ที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งคาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ให้แก่การไฟฟ้านครหลวงได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2557 นอกจากนี้ ยังมีการร่วมลงทุนกับบริษัท วีรับเบอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในบริษัท พีวี กรีน จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคาขนาด 987.84 กิโลวัตต์ โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นระหว่างบริษัทฯและบริษัท วีรับเบอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัดเท่ากับ ร้อยละ 19.99 และร้อยละ 80.01 ของทุนจดทะเบียนทั้งหมด 18 ล้านบาทตามลำดับ

นอกจากนี้ บริษัทยังได้ทำการยื่นแบบคำขอจำหน่ายไฟฟ้าและการเชื่อมโยงไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอีก 11 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานชีวมวลกำลังการผลิต 990 กิโลวัตต์ จำนวน 7 โครงการ รวมกำลังผลิต 6.93 เมกะวัตต์ โรงงานไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 9.2 เมกะวัตต์ จำนวน 4 โครงการ รวมกำลังการผลิต 36.8 เมกะวัตต์ โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาคำขอจำหน่ายไฟฟ้าและการเชื่อมโยงไฟฟ้าจากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค

“เรามีวิสัยทัศน์ในการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการระบบไฟฟ้าและพลังงานของประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายในการดำเนินงานโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญทุกขั้นตอน ตั้งแต่การให้คำปรึกษาแก่ลูกค้า การออกแบบและจัดหาผลิตภัณฑ์ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาด รวมถึงการบริการหลังการขายเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยการพัฒนาความรู้ความสามารถของบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งในปัจจุบันบริษัทมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและแนวทางในการบริหารจัดการพลังงานใหม่ๆ และวางแผนลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการการใช้พลังงานที่มีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง" นายพระนาย กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ