(เพิ่มเติม) KBS คาดรายได้ปีนี้โต 5-10% กำไรสูงขึ้น, เตรียมแผน 5 ปีลงทุน 5-6 พันลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday June 19, 2014 13:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทัศน์ วนากรวุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.น้ำตาลครบุรี(KBS)เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์รายได้ในปี 57 จะเติบโต 5-10% จากปีก่อนที่มีรายได้ 5,900 ล้านบาท สัดส่วนรายได้หลักยังมาจากธุรกิจน้ำตาล ขณะที่กำไรจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไร 500 ล้านบาท เนื่องจากนปีนี้มีกำไรจากธุรกิจไฟฟ้าที่ดีขึ้น และราคากากน้ำตาลปรับตัวดีขึ้น รวมถึงความต้องการของเอทานอลปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย

ประกอบกับบริษัทฯมีปริมาณการหีบอ้อยใกล้เคียงเดิม แต่มีปริมาณน้ำตาลเพิ่มขึ้น ทำให้มีอัตรากำไรดีขึ้นมาร์จิ้นดีขึ้น โดยคาดว่าอัตรากำไรสุทธิน่าจะดีกว่าปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นน่าจะสูงขึ้นมาที่ระดับ 20-21% จากปีก่อน 18% ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าปีนี้จะมีปริมาณหีบอ้อยที่ 2.50 ล้านตัน ลดลงจากปีก่อนที่อยู่ในระดับ 2.55 ล้านตัน แต่ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณผลผลิตน้ำตาล เพราะคุณภาพอ้อยดีขึ้นทำให้ผลผลิตน้ำตาลต่อตันอ้อยเพิ่มขึ้น ปัจจุบัน บริษัทมีปริมาณน้ำตาลอยู่ที่ 265,000 ตัน/ปี

นายทัศน์ กล่าวอีกว่า แนวโน้มราคาน้ำตาลในตลาดโลกช่วงที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ผู้ผลิตในประเทศต่าง ๆ ขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้นเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ราคาน้ำตาลลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นผลมาจากความต้องการน้ำตาลมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการผลิตที่เพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำตาลมาอยู่ที่ประมาณ 17-18 เซ็นต์/ปอนด์ แต่มองว่าราคาน้ำตาลน่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ในปี 58 หลังจากปีนี้ลงมาอยู่ในระดับต่ำแล้ว

บริษัทอยู่ระหว่างการลงทุนในโครงการ"ชูการ์เอ็นเนอร์ยี่คอมเพล็กซ์"เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอีก 50% โดยก่อสร้างโรงงานผลิตเอทานอลกำลังการผลิต 200,000 ลิตร/วันในพื้นที่โรงงานน้ำตาลครบุรี พร้อมทั้ง ลงทุนขยายกำลังการผลิตน้ำตาลอีก 12,000 ตันอ้อย/วัน เงินลงทุนรวม 4,291.7 ล้านบาท คาดว่าจะเปิดเดินเครื่องผลิตรองรับผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 58/59 ซึ่งจะทำให้กำลังการหีบอ้อยโดยรวมของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเป็น 35,000 ตันอ้อย/วัน

ในปีนี้โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าครบุรี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ KBS ขนาดกำลังการผลิต 35 เมกกะวัตต์ คาดว่าจะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.)ได้ในช่วงไตรมาส 2/57 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติวันเริ่มขายไฟฟ้า หลังจากบริษัทยื่นขออนุมัติไปตั้งแต่ต้นปี แต่เนื่องด้วยกระทรวงพลังงานมีการหยุดทำการไประยะหนึ่งจากผลกระทบการชุมนุมทางการเมือง ทำให้เรื่องชะงักไป และแม้ว่าจะมีรัฐบาลใหม่ซึ่งดำเนินงานภายใต้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก็ยังไม่มีความชัดเจนในแง่ของการปฏิบัติ

นายทัศน์ กล่าวว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายกลับไปใช้นโยบายที่สามารถจำหน่ายให้กับ กฟผ.ได้เลยก็จะช่วยในการลดขั้นตอนไป แต่ ณ ปัจจุบันที่ต้องเสนอเรื่องผ่านคณะกรรมการออกใบอนุญาตให้จำหน่ายไฟฟ้าก่อน จึงทำให้บริษัทยังไม่สามารถกำหนดวันจำหน่ายไฟฟ้าได้ชัดเจนในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟได้ในช่วงเดือน ธ.ค.นี้ และจะสามารถรับรู้รายได้ทั้งสิ้น 70 ล้านบาทในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทวางเป้าหมาย 5 ปีจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลอีก 1 แห่ง ซึ่งจะต้องมีกำลังการผลิตน้ำตาลเพิ่มเป็น 4 ล้านตัน/ปี คาดว่าจะมีมูลค่าลงทุนในโครงการ 5-6 พันล้านบาท โดยขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการศึกษา

พร้อมกันนั้น บริษัทมีแผนออกไปชี้แจงแผนงานและข้อมูลต่างๆ ต่อนักลงทุนต่างประเทศ(โรดโชว์) โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับ บล.ธนชาต คาดว่าจะร่วมกันเดินทางไปโรดโชว์ในช่วงเดือนส.ค.นี้ เริ่มจากฮ่องกงและสิงคโปร์


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ