บลจ.กรุงศรี ออกกองตราสารหนี้ อายุ 6 เดือน ผลตอบแทน 2.60% ขาย 30 มิ.ย.

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 24, 2014 14:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฉัตรพี ตันติเฉลิม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงศรี (KSAM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดเสนอขายกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M99(KFFIX6M99) อายุประมาณ 6 เดือน มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เช่น เงินฝากธนาคาร China Construction Bank (สาธารณรัฐประชาชนจีน ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 20% เงินฝากธนาคาร Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน สาขามาเก๊า) สัดส่วนการลงทุน 20% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Industrial and Commercial Bank of China (Asia) (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ EMTN ออกโดยธนาคาร Agricultural Bank of China (สาธารณรัฐประชาชนจีน, ฮ่องกง) สัดส่วนการลงทุน 15% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคารธนชาต จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% ตราสารหนี้ระยะสั้นออกโดยธนาคาร กรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10% และตั๋วแลกเงินออกโดยบริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) สัดส่วนการลงทุน 10%

ทั้งนี้ กองทุนมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน โดยนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากการขายคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติประมาณ 2.60% ต่อปี และหลังครบกำหนดอายุโครงการบริษัทจะรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติและสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนไปยังกองทุนเปิดกรุงศรีตราสารเงิน (KFCASH) ซึ่งเป็นกองทุนรวมตลาดเงิน เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนต่อไป

กองทุนเปิดกรุงศรีตราสารหนี้ 6M99 (KFFIX6M99) เป็นทางเลือกสำหรับการลงทุนในตราสารหนี้เหมาะกับนักลงทุนที่มองหาการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำและต้องการสร้างโอกาสรับผลตอบแทนสูงกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก และต้องการล็อคผลตอบแทน โดยสามารถลงทุนได้เป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือน

สำหรับภาวะตลาดตราสารหนี้โลกนั้น อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นของสหรัฐฯลดลงร้อยละ 0.02 ในขณะที่ตราสารหนี้อายุมากกว่า 1 ปี อัตราผลตอบแทนปรับขึ้นร้อยละ 0.00 – 0.02 ในส่วนของเส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยมีลักษณะชันน้อยลง โดยที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ระยะสั้นปรับขึ้นร้อยละ 0.005 – 0.02 ในขณะที่อัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ที่มีอายุยาวกว่าปรับลดลงร้อยละ 0.0 – 0.015 ทั้งนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ปรับลดคาดการณ์จีดีพีปีนี้ลงสู่ร้อยละ 1.5 จากคาดการณ์เดิมที่ร้อยละ 2.7 โดยคาดว่าเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีแรกนี้หดตัวร้อยละ0.5 แต่คาดว่าจะขยายตัวราวร้อยละ 3.4 – 3.5 ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากแรงหนุนของการลงทุนภาครัฐและภาคเอกชน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ