สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้มีมูลค่าการซื้อขายรวม 60,909 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 38,232 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 62.8% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 14,912 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 24.5% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 1,454 ล้านบาท หรือคิดเป็น 2.4% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB296A, LB176A และ LB15DA(รุ่นอายุ 14.9 ปี, 2.9 ปี และ 1.4 ปี ตามลำดับ)โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 11,717 ล้านบาท หรือคิดเป็น 79% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้บ้านปู (BANPU195A) มูลค่า 207.6 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย) จำกัด(TLT164A) มูลค่า 200.5 ล้านบาท
3. หุ้นกู้ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)(TOP173B) มูลค่า 142.2 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 550.3 ล้านบาท หรือคิดเป็น 37.9% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 9,434 ล้านบาท
2. กลุ่มบริษัทจดทะเบียนในประเทศ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 579 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 610 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.06% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.21% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน
Yield Curve ปรับลดลงเล็กน้อยในตราสารอายุ 10-20 ปี ประมาณ 1 bp. โดยพันธบัตรรัฐบาล รุ่น Benchmark อายุ 15 ปีที่ประมูลวันนี้ ได้รับความสนใจจากนักลงทุน 1.57 เท่าของวงเงินประมูล ด้านตลาดยังคงติดตามรายงานการประชุม Fed ที่จะประกาศออกมาคืนนี้ ว่าจะมีการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 610 ล้านบาท