สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA) สรุปภาวะตราสารหนี้ไทย( 8 ส.ค. 57) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 96,452 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 80,031 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 83.0% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ พันธบัตรรัฐบาล มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 9,785 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10.1% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 874 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.9% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด
สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB196A, LB176A และ LB155A(รุ่นอายุ 4.8 ปี, 2.8 ปี และ 0.8 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,016 ล้านบาท หรือคิดเป็น 82% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้านหุ้นกู้เอกชนรุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. หุ้นกู้ของบริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด(มหาชน)(MINT17DA)มูลค่า 165.0 ล้านบาท
2. หุ้นกู้มีประกันของบริษัท โตโยต้า ลีสซิ่ง(ประเทศไทย)จำกัด(TLT175A) มูลค่า 140.8 ล้านบาท
3. หุ้นกู้บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด(มหาชน)(MBK207A) มูลค่า 103.7 ล้านบาท
โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 409.5 ล้านบาท หรือคิดเป็น 46.8% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้
ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ
1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 25,790 ล้านบาท
2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,524 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดขายสุทธิ เท่ากับ -6,404 ล้านบาท
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2.01% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 3.02% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.05%
Yield Curve ปรับลดลงในตราสารอายุ 3 ปีขึ้นไป ประมาณ 3-6 bps. ในทิศทางเดียวกับ US Treasury ล่าสุดตัวเลข Jobless Claims ของสหรัฐฯ สิ้นสุดวันที่ 2 ส.ค.ปรับตัวลดลง 14,000 ราย อยู่ที่ 289,000 ราย ต่ำกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ระดับ 304,000 ราย และผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป โดยไม่มีการเสนอมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ประกอบกับ Geopolitical Risks ที่สหรัฐฯอาจพิจารณาใช้กำลังทางอากาศโจมตีในอิรัก ส่งผลต่อ Global Sentiment ในเชิงลบ สำหรับนักลงทุนต่างชาติวันนี้ มียอดขายสุทธิ(NET SELL) เท่ากับ 6,404 ล้านบาท ทั้งนี้ ยอด Holding ของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นสัปดาห์นี้ ลดลง 21,586 ล้านบาท จาก 784,141 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อน เป็น 762,555 ล้านบาท