สภาตลาดทุนฯ เล็งพบรมว.คลังเสนอปรับรูปแบบ LTF หากไม่ต่ออายุมาตรการภาษีเดิม

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 15, 2014 11:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ และรักษาการประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทย กล่าวว่า ทางสภาตลาดทุนไทยเตรียมที่จะเข้าพบนายสมหมาย ภาษี รมว.คลังคนใหม่ เพื่อที่จะพูดคุยถึงการจะคงอยู่หรือการยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางภาษีของกองทุนหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะหมดอายุในปี 59 หากไม่มีการต่ออายุทางสภาตลาดทุนไทยจะเสนอกองทุนในรูปแบบใหม่ที่จะมีรูปแบบผสมระหว่างสัดส่วนการลงทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หุ้น รวมถึงพันธบัตรรัฐบาลเพื่อที่จะให้มีความหลากหลายในกองทุนมากขึ้น จากเดิม LTF จะลงทุนในหุ้นทั้งหมด ขณะที่ระยะเวลาการถือหน่วยลงทุนอาจจะมีการปรับเปลี่ยนให้ถือครองยาวขึ้นเป็น 6-8 ปี จากเดิมระยะ 5 ปี

นอกจากนี้ สภาตลาดทุนไทยยังมีการสนับสนุนในกองทุน LTF อยู่ เนื่องจากมองว่ากองทุนนี้เป็นส่วนช่วยให้ตลาดหุ้นมีเสถียรภาพ เนื่องจากสัดส่วนที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนสถาบันที่เพิ่มขึ้น จากเมื่อ 8 ปีก่อนก่อนมีกองทุน LTF มีสัดส่วนนักลงทุนสถาบันเพียง 5-6% ของมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ปัจจุบันเพิ่มเป็น 9-10%

อย่างไรก็ตาม ยังมองว่าเป็นระดับต่ำรัฐบาลควรสนับสนุนให้มีกองทุนดังกล่าวต่อไป ซึ่งเป็นส่วนช่วยของคนกลุ่มมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้ระดับกลาง ที่ต้องการลงทุนเพื่อได้รับผลตอบแทนที่มากกว่าเงินฝาก ซึ่งมองว่ากองทุนนี้ไม่ได้เป็นกองทุนที่ช่วยในกลุ่มคนรวยแต่อย่างใด

นายไพบูลย์ กล่าวถึง ตลาดหุ้นไทยในระยะนี้จะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ เพื่อรอดูการทำงานของรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.)ชุดใหม่ว่าจะสามารถทำได้ตามโรดแมพที่วางไว้ก่อนหน้านี้หรือไม่ ปัจจุบันมองตลาดหุ้นไทยอาจมีความผันผวนค่อนข้างมากจากที่นักลงทุนเข้ามาเก็งกำไรในหุ้นขนาดเล็กมากขึ้น

ทั้งนี้ มองดัชนีตลาดหุ้นไทยที่ใกล้ 1,600 จุด เป็นราคาที่ค่อนข้างสูง แต่หากรัฐบาลสามารถดำเนินแผนตามนโยบายต่างๆที่ออกมาก่อนหน้านี้ก็เชื่อว่าตลาดหุ้นไทยในปี 58 เมื่อรวมกับปัจจัยผลประกอบการในปี 58 ดัชนีระดับนี้ก็ยังถือว่าไม่แพง แต่ถ้ามองเฉพาะกำไร บจ.ปีนี้ถือว่าแพงแล้ว

อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถประเมินได้ว่าปี 58 ตลาดหุ้นไทยจะปรับตัวขึ้นหรือลง เนื่องจากยังมีหลายปัจจัยที่จะเข้ามากระทบเช่น สถานการณ์ต่างๆ ในต่างประเทศ รวมถึงการทำงานของรัฐบาลจะสามารถทำได้ตามแผนหรือไม่

สำหรับประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ช่วงกลางสัปดาห์นี้ นักลงทุนได้ติดตามการส่งสัญญาณการปรับตัวขึ้นของดอกเบี้ยว่าจะปรับตัวขึ้นเร็วกว่าที่นักลงทุนคาดหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าเฟดจะไม่รีบปรับดอกเบี้ยขึ้น ซึ่งหากมีการส่งสัญญาณปรับดอกเบี้ยขึ้นเร็วกว่าที่คาดอาจมีแรงเทขายหุ้นออกมาบ้างแต่ไม่มากนัก ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐที่จะหมดลงในเดือนต.ค.เชื่อว่าตตลาดจะไม่มีความกังวลในเรื่องนี้เนื่องจากที่ผ่านมามีการรับรู้ไปเกือบหมดแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ