อสังหาฯเล็กยังคึกคักรับกระแสเทคโอวอร์ โบรกฯเตือนระวังหากหมดรอบเก็ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday October 1, 2014 10:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นในกลุ่มที่อยู่อาศัยขนาดเล็กยังเทรดกันอย่างคึกคัก ล่าสุดเมื่อเวลา 10.22 น.หุ้น NCH อยู่ที่ 1.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.03 บาท(+1.74%)มูลค่าซื้อขาย 25.01 ล้านบาท

หุ้น NPARK อยู่ที่ 0.05 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง มูลค่าซื้อขาย 8.33 ล้านบาท

หุ้น PRECHA อยู่ที่ 4.52 บาท เพิ่มขึ้น 0.88 บาท(+24.18%)มูลค่าซื้อขาย 286.84 ล้านบาท

หุ้น THANA อยู่ที่ 4.14 บาท เพิ่มขึ้น 0.04 บาท(+0.98%)มูลค่าซื้อขาย 23.12 ล้านบาท

หุ้น PRIN อยู่ที่ 1.82 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท(+0.55%)มูลค่าซื้อขาย 4.67 ล้านบาท

บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย)ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ราคาหุ้นหลักทรัพย์กลุ่มที่อยู่อาศัยขนาดเล็กถูกเก็งกำไรขึ้น คาดว่าจะเป็นข่าวการถูกซื้อกิจการ(Takeover)จากหลักทรัพย์ขนาดใหญ่กว่า อาจเป็นบริษัทในตลาดฯหรือบริษัทนอกตลาดฯที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดฯแบบทางอ้อม (Backdoor Listing) ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นโดดเด่น แต่ก็พร้อมจะมีแรงขายทำกำไรได้เช่นกันเมื่อพบว่าในที่สุดแล้ว ข่าวดังกล่าวมีความคืบหน้าน้อย หรือไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด

ดังนั้น ผลกระทบจึงมองเป็นความเสี่ยงของนักลงทุนที่จะเข้าไปเก็งกำไรหลักทรัพย์เหล่านี้ อีกทั้งระยะนี้ที่ตลาดหลักทรัพย์มีความเข้มงวดกับหลักทรัพย์ที่มีการเก็งกำไรสูง เมื่อมีข่าวเกี่ยวกับมาตรการมาคุมเข้ม ก็จะยิ่งมากระทบให้ราคาหุ้นปรับตัวลงได้ เพราะกังวลว่าจะเข้าข่ายถูกใช้มาตรการนั่นเอง

มีหลายกรณีเกิดขึ้น เช่น วานนี้ NPARK แจ้งว่าข่าวการซื้อกิจการจาก S ไม่เป็นความจริง และ THANA ผู้ถือหุ้นใหญ่คือ กลุ่มเสถียรภาพอยุทธ์ ขายหุ้นออกไปเพียง 1.39% เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง แต่โครงสร้างผู้ถือหุ้นยังเหมือนเดิม ก็มีส่วนทำให้ราคาหุ้นมีความผันผวนได้ จึงเห็นว่าการขายกิจการนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะหากเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท(Founder) ก็จะหวงแหนกิจการที่สร้างมากับมือ และยังหวังว่าจะมีอนาคตต่อไป บางครั้งเมื่อมีผู้มาขอเจรจาซื้อก็จะตั้งราคาที่สูงกว่ามูลค่าทางบัญชี(Book Value)เพื่อให้ลดความสนใจ ยกเว้นแต่ว่าจะได้ราคาเสนอซื้อที่ได้รับผลตอบแทนสูงมาก ๆ จนจูงใจให้ขาย

ทีมกลยุทธ์ได้รวบรวมหลักทรัพย์ขนาดเล็ก กลุ่มที่อยู่อาศัยที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสูง และได้รับความสนใจมาบางส่วน จากการวิเคราะห์พบว่า 1) มูลค่าทางบัญชี ไม่ได้บ่งบอกว่า หาก P/BV ต่ำกว่า 1 เท่า เท่านั้นที่จะได้รับความสนใจ เมื่อมีการทำเทนเดอร์ ออฟเฟอร์ เช่นในรายของ THANA, PRECHA และ NPARK ที่มี P/BV มากกว่า 2 เท่า และ 2) ผลการดำเนินงานในรอบ 1H57 ออกมาไม่ดีทุกหลักทรัพย์ คือ ลดลงมากเทียบ y-o-y หรือเป็นขาดทุนสุทธิ

ดังนั้นคิดว่าสิ่งที่นักลงทุนควรติดตามคือ แนวโน้มผลการดำเนินงานในอนาคตมากกว่า การเก็งกำไรตามข่าวลือ อาจจะได้รับความเสียหายได้ เมื่อรอบการเก็งกำไรจบลง

Ticker ราคาปิด มูลค่าหุ้นทาง P/BV Growth 1H57 (บาท) บัญชี(บาท) (x) y-o-y NCH 1.72 1.93 0.9 -19% PRIN 1.81 3.16 0.6 -55% THANA 4.10 1.63 2.5 -99% PRECHA 3.64 1.75 2.1 ขาดทุนสุทธิ NPARK 0.05 0.02 2.5 ขาดทุนสุทธิ
แท็ก อสังหาฯ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ