(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับตัวลงตามภูมิภาคหลัง EU ปรับลด GDP-กลุ่มพลังงานถ่วง

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday November 5, 2014 09:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มี
โอกาสที่จะอยู่ในแดนลบมากกว่า แต่โดยรวมภาพยังเป็นลักษณะของการแกว่งในกรอบจำกัด เนื่องจากทาง EU ได้มีการปรับลดประมาณการตัวเลข GDP ลงเหลือโต 0.8% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดโต 1.2% และปีหน้า(2558)ลดลงเหลือโต 1.1% จากเดิมที่คาดโต 1.7%

นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มพลังงานที่ถ่วงตลาดอยู่ เนื่องจากราคาน้ำมันได้ปรับตัวลงมาทำ New Low ในรอบ 4 ปี ส่วนการ ประชุมธนาคารกลางยุโรป(ECB)ใน 6 พ.ย.นี้ ตลาดฯก็คาดว่าอาจจะไม่มีอะไร ดังนั้นเมื่อไม่มีปัจจัยหนุนอะไรก็อาจจะมีแรงขายทำ กำไรออกมาได้ ด้านตลาดภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนลบ

สำหรับเศรษฐกิจไทยในงวดไตรมาส 3/57 ก็อาจจะไม่ค่อยดี พร้อมให้แนวรับ 1,575-1,570 จุด ส่วนแนวต้าน 1,592-1,595 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน :

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์คล่าสุด(4 พ.ย.)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,383.84 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด(+0.10%),ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,623.64 จุด ลดลง 15.27 จุด(-0.33%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,012.10 จุด ลดลง 5.71 จุด(-0.28%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 77.03 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 1.49 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 1.18 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 8.58 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 3.42 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 5.58 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.61 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(4 พ.ย.)1,585.15 จุด เพิ่มขึ้น 5.97 จุด(+0.38%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 321.86 ล้านบาท เมื่อวันที่ 4 พ.ย.57
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ธ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(4 พ.ย.)ที่ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(4 พ.ย.)ที่ 6.26 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.67/69 จับตาประชุมกนง.วันนี้
  • กกร.ประเมินส่งออกปีนี้โตแค่ 0-0.5% จีดีพี 1-1.5% หวังส่งออกปีหน้า แรงขับเคลื่อนดันเศรษฐกิจส่งออกขยายตัว จี้รัฐบาลแก้กฎระเบียบดึงต่างชาติตั้งสำนักงานในไทยฐานการลงทุนประเทศเพื่อนบ้าน ค้านลงนามสัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 87 และ 98 ห่วงความมั่นคงของประเทศ ชี้ ยังไม่มีความพร้อมต้องพึ่งพาแรงงานต่างด้าว
  • นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า จะเสนอร่าง พ.ร.บ.ภาษีรับมรดกให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 11 พ.ย.นี้ หลังผ่านการตรวจร่างจากกฤษฎีกาแล้ว โดยสาระสำคัญยังเหมือนเดิม คือ เก็บจากผู้รับมรดกในส่วนที่เกินกว่า 50 ล้านบาท อัตราภาษีเดียวที่ 10%
  • ตลาดหลักทรัพย์เผยสถิติหุ้นร้อนยังพุ่งต่อเนื่อง บจ.ชี้แจงข้อมูลทะลุ 163 ครั้ง สูงสุดเป็นประวัติการณ์ เหตุตลาดหุ้นคึกคักทำนักลงทุนเก็งกำไรหุ้นเล็ก ห่วงนักลงทุนเห็นความเสี่ยงเป็นเรื่องปกติ ชี้มาตรการคุมหุ้นร้อนอยู่ในระดับเดียวกับประเทศเพื่อนบ้าน
  • ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ วิเคราะห์กรณีธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ขยายมาตรการซื้อสินทรัพย์(คิวอี) จาก 60-70 ล้านล้านเยน เป็น 80 ล้านล้านเยน/ปี ว่า จะไม่กระทบตลาดการเงินของไทยมากนัก เนื่องจากมีมูลค่าการซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเพียง 10-20 ล้านล้านเยน/ปี จากวงเงินเดิม
  • ครม.รับทราบผลเบิกจ่ายงบประมาณเดือนแรก (1-31 ต.ค.) ปี 58 ทะลุ 367,707.67 ล้าน สูงกว่าช่วงเดียวกันกว่าแสนล้าน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KTB(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 27 บาท กลุ่มแบงก์ได้อานิสงส์เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มไหลกลับเข้าตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงไทย ทิศทางสินเชื่อ 4Q57 เติบโตสูงคาดใกล้เคียงกับเป้าหมายทั้งปี 6-8%(9M57 เติบโต +6.3% YTD)จากแรงหนุนสินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐจากเร่งเบิกจ่ายงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ คาดกำไรสุทธิปี 58 เติบโต +12.9% yoy เป็น 38,054 ล้านบาท และมี Valuation ยังไม่สูงมากนัก
  • AP(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ซื้อเก็งกำไร"เป้า 8.20 บาท รายงานงบ 3Q57 ใน 12 พ.ย.คาดกำไรจะเติบโตสูง +134.5% yoy และ +33.6% qoq เป็น 951 ล้านบาท จากการรับรู้ฯโครงการ Asipire สุขุมวิท 48 และ Aspire พระราม 9 และคาดงบจะออกมาดีกว่าคาด และมี Valuation น่าสนใจ ซื้อขายระดับ PER 58 เพียง 7.5 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ 10.4 เท่า และให้ Dividend Yield ในเกณฑ์ดีที่ 5.3% ในปี 58 และเพิ่มขึ้นเป็น 6.3% ในปี 59
  • MAJOR(บัวหลวง)"ซื้อ"เป้า 31.50 บาท ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 58 ขึ้น 11% เป็น 1.3 พันล้านบาท เชื่อว่าหน้าหนังทึ่โดดเด่นในปีหน้าช่วยหนุนยอดขายตั๋วและรายได้อาหาร-เครื่องดื่มในปี 58 ซึ่งคาดการณ์ไว้ที่ 6.05 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 11% YoY ส่วนการปรับลดต้นทุนจะเริ่มเห็นผลครึ่งหลังปี 57 และคาดจะลดลง 20% ในปี 2558 ส่งผลให้อัตรากำไรขั้นต้นน่าจะขยายตัวเป็น 35.8% ในปี 58 และ 36.1% ในปี 59 และบริษัทมีแผนขยายสาขาโรงภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง โดยในระยะยาวบริษัทตั้งเป้าว่าจะต้องมีโรงภาพยนตร์ 1,000 โรงในประเทศภายในสิ้นปี 63
  • AAV(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อเก็งกำไร"เป้าปี 58 ที่ 5.40 บาท แนวโน้มพลิกกลับมาเป็นกำไรได้ 4Q14 ใน High season และยิ่งดีขึ้นใน 1Q15 โดยกำไรปีหน้าคาดกลับสู่ภาวะปกติ โตก้าวกระโดด 1,916% Y-Y ทั้งนี้ผลงาน 3Q14 คาดขาดทุนเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนเล็กน้อยเป็น 190 ล้านบาท เพราะค่าตั๋วโดยสารปรับลงต่อจากภาวะการแข่งขันที่รุนแรงของตลาดในประเทศ และหนี้สินรอตัดบัญชีเพิ่มขึ้นตามการรับมอบเครื่องบินอีก 3 ลำ จึงปรับประมาณการกำไรปีนี้ลง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ