PAE-W1 ปิดเทรดวันแรกที่ 0.58 บาท มูลค่าซื้อขาย 618.42 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.60 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.62 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.50 บาท
ขณะที่ราคาหุ้น PAE ปิดที่ 0.93 บาท ลดลง 0.02 บาท(-2.11%)มูลค่าซื้อขาย 194.44 ล้านบาท โดยเปิดตลาดที่ 0.94 บาท ราคาขึ้นสูงสุด 0.94 บาท และราคาลงต่ำสุด 0.89 บาท
บล.ทิสโก้ ระบุในบทวิเคราะห์ฯประเมินมูลค่าที่เหมาะสมของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ บมจ.พีเออี (ประเทศไทย)หรือ PAE ใช้ชื่อย่อว่า PAE-W1 คาดว่าจะมี All-in Premium เพียง -3.16% เนื่องจากอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิที่สั้นเพียง2 ปี, สถานะของใบสำคัญแสดงสิทธิที่ In The Money และสามารถใช้สิทธิได้ทุกวันที่ 15 ของทุกเดือนสิ้นไตรมาสทำให้รวมผลของ Dilution 33.33% เข้าไปในมูลค่าที่เหมาะสม และไม่เคยมีประวัติการจ่ายเงินปันผลในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ดังนั้น มองว่าสำหรับนักลงทุนที่ชอบ PAE มอง PAE-W1 มีความน่าสนใจในการลงทุนมากกว่าหุ้นแม่หากราคาไม่เกิน 0.45 บาท เนื่องจากมองว่า PAE จะไม่สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในระยะสั้น และ PAE-W1 สามารถใช้สิทธิได้ทุกไตรมาส ทำให้นักลงทุนมีความยืดหยุ่นในการแปลงสภาพ พร้อมประเมินมูลค่า PAE-W1 ได้ที่ 0.42 บาท/หน่วย คิดเป็น All-in Premium -3.16% อ้างอิงราคาหุ้นแม่ที่ 0.95 บาท (7 พ.ย.)
ทั้งนี้ PAE ให้บริการด้านงานวิศวกรรมและการก่อสร้าง ให้บริการดูแลรักษาและซ่อมแซมอุปกรณ์ต่างๆ แก่บริษัทผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ รวมไปถึงได้ส่งผู้มีประสบการณ์ไปปฏิบัติงานทั้งบนฝั่งและนอกชายฝั่ง(Onshore & Offshore)ทั้งในและต่างประเทศ
PAE-W1 จำนวนที่ออก 1,364 ล้านหน่วย จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมในอัตราส่วน 2 : 1 ฟรี อัตราใช้สิทธิ 1 : 1 @ 0.5 บาท, อายุ 2 ปี กำหนดให้ใช้สิทธิได้ในวันที่ 15 ของทุกเดือน มี.ค., มิ.ย., ก.ย. และ ธ.ค. (ใช้สิทธิได้ครั้งแรกในวันที่ 15 ธ.ค. 57 และใช้สิทธิได้ครั้งสุดท้ายวันที่ 2 พ.ย. 59 ซึ่งเป็นวันหมดอายุ)