UAC เล็งเพิ่มสัดส่วนรายได้ธุรกิจพลังงานทางเลือกเป็น 50%ในอีก 1-2 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday November 14, 2014 12:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชัชพล ประสพโชค กรรมการผู้จัดการ บมจ.ยูเอซี โกลบอล (UAC) เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้คาดว่า จะมีการฟื้นตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น ตามการเร่งดำเนินการของนโยบายภาครัฐที่ส่งเสริมให้มีการใช้งานพลังงานทางเลือกมากขึ้น จึงมั่นใจว่ารายได้ของบริษัทฯในปีนี้จะเติบโตได้ตามแผนที่วางไว้ เป็นการรับรู้รายได้จากธุรกิจพลังงานทางเลือกประมาณ 10% ของรายได้รวม และคาดว่าในอีก 1-2 ปีข้างหน้าสัดส่วนรายได้ที่จะมาจากธุรกิจพลังงานทดแทนกับธุรกิจเทรดดิ้งก็จะมีสัดส่วนเท่าๆกันคือที่ระดับ 50% ต่อ 50%

สำหรับแผนความคืบหน้าการลงทุน ได้เร่งก่อสร้างโรงงานไบโอแก๊ส 4 โรง ที่จ. เชียงใหม่ ลำปางและขอนแก่น โรงงานที่ จ. เชียงใหม่ จะแล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้ และอีก 3 โรงที่ จ. ขอนแก่น และ จ. ลำปาง จะเสร็จทั้งหมดในไตรมาส 2 ปี 2558 นอกจากนี้ยังได้เร่งก่อสร้างโครงการโซล่าร์รูฟ อีก 1 โครงการน่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้บริษัท มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากโซล่าร์รูฟเป็น 1.3 MW โครงการก่อสร้างโรงงานไบโอแก๊สและโซล่าร์รูฟทั้งหมดได้มอบให้บริษัท Sebigas UAC เป็นผู้ออกแบบก่อสร้างทั้งหมด คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีการอนุมัติการลงทุนก่อสร้างโรงงานผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งในพื้นที่ของโรงงานผลิตกระแสไฟฟ้า Biogas Power Plant จากหญ้าเนเปียร์ บริษัท ยูเอซี แอนด์ ทีพีที เอนเนอยี่ จำกัด ในจังหวัดขอนแก่น โรงงานนี้มีกำลังการผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งประมาณ 20,000 ตันต่อปี คาดว่าจะสร้างรายได้ประมาณปีละ 60 ล้านบาท และจะเริ่มการผลิตประมาณปลายไตรมาสที่ 2 ในปี 2558 โดยใช้วัตถุดิบที่ได้จากโรงงาน Biogas Power Plant การลงทุนนี้ก็จะเป็นส่วนเสริมสร้างให้ UAC มีรายได้มากขึ้นอย่างยั่งยืนอีกด้วย

ผลการดำเนินงานประจำงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2557 ว่า บริษัทฯมีรายได้รวม 832.09 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.19% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมที่ 783.55 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 37.34 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA หรือกำไรก่อนหักภาษีและดอกเบี้ย งวด 9 เดือน อยู่ที่ 93.56 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 126.03 ล้านบาท สัดส่วนรายได้จากโครงการพลังงานทดแทนในงวด 9 เดือนแรก เป็นสัดส่วนที่ยังน้อยอยู่ และจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามกำลังการผลิตที่มากขึ้น

ทั้งนี้ ยอดขายรวมที่โตขึ้น 6% สะท้อนถึงความต้องการสินค้าที่ชะลอลงตามภาวะเศรษฐกิจในช่วงไตรมาส 2-3 ซึ่งคาดว่ายอดขายจะกลับมาเพิ่มสูงขึ้นในไตรมาส 4 ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

บริษัทฯมีค่าเสื่อมราคาโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) อ.แม่แตง จ. เชียงใหม่ และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) จ.สุโขทัย บวกกับต้นทุนทางการเงิน ส่วนใหญ่เกิดจากดอกเบี้ยจ่ายของเงินกู้ระยะยาว และสัญญาเช่าทางการเงิน สำหรับโรงงานผลิตก๊าซชีวภาพอัดความดันสูง (CBG) อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ และโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม (PPP) จ.สุโขทัย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ