บลจ.ทิสโก้ ออกกองทริกเกอร์หุ้นไทยลุ้นผลตอบแทน 8%ใน 8 เดือน ขาย7-9 ม.ค.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday January 7, 2015 11:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาด ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บลจ.ทิสโก้ กล่าวว่า บริษัทเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #18" โดยตั้งเป้าหมายเลิกโครงการที่ 8% ภายใน 8 เดือน หรือ ณ เวลาใดเวลาหนึ่งหลังจากนั้น โดยเปิดขายครั้งแรกตั้งแต่ 7-9 ม.ค.58 เป็นการจับจังหวะการลงทุนเพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี บลจ.ทิสโก้ จึงแนะนำให้ใช้โอกาสที่ช่วงที่หุ้นปรับฐาน เข้าสะสมหุ้นไทย

“กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #18" จะลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และ/หรือตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) มีมูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท โดย ณ ปัจจุบัน บลจ.ทิสโก้ ได้ออกกองทุนในซีรีย์ “ทิสโก้ ไทย ทริกเกอร์" ทั้งสิ้นจำนวน 16 กองทุน โดยมีผลงานเข้าเป้าหมายทั้งสิ้น 13 กองทุน อยู่ระหว่างเสนอขาย 1 กองทุน (กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #18), อยู่ระหว่างลงทุน 1 กองทุน (กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #17) และเปิดซื้อขายทุกวันทำการ 1 กองทุน (กองทุนเปิด ทิสโก้ ไทย อิควิตี้ ทริกเกอร์ 8% #15)

ทั้งนี้ หลังจากที่ตลาดหุ้นเปิดทำการหลังจากหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ดัชนีหุ้นไทยมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยจากแรงกดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน-ปิโตรเคมี หลังราคาน้ำมันโลกที่ร่วงทำจุดต่ำสุดใหม่ในรอบมากกว่า 5 ปี นับตั้งแต่เดือน เม.ย.52 และจากแรงขาย LTF ภายในประเทศที่ครบ 5 ปี ทำให้หุ้นไทยผันผวนและปรับฐานลง

"มองว่าการที่หุ้นปรับฐานมาจากผลกระทบจากราคาน้ำมันโลกที่ดิ่งตัวต่อเนื่อง และจากการเทขาย LTF ที่ครบกำหนด ด้วยพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังมีความเข้มแข็งและการเมืองที่มีเสถียรภาพ จึงแนะนำให้ใช้ช่วงที่หุ้นกำลังปรับฐานนี้เป็นช่วงทยอยเข้าสะสมเพื่อโอกาสรับผลตอบแทนที่ดี"นายสาห์รัชกล่าว

ด้านศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (TISCO ESU) วิเคราะห์ว่า เศรษฐกิจไทยในปี 58 จะฟื้นตัวดีขึ้น โดยคาดว่าจะขยายตัวได้ที่ 4.5% เนื่องจากปัจจัยการเมืองที่มีเสถียรภาพมากขึ้น ทำให้เรียกความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนนักลงทุนเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การที่ภาครัฐเข้ามาขยายโครงการการลงทุนเพิ่มเติม จะช่วยสนับสนุนภาคการบริโภคและภาคการลงทุนให้มีแนวโน้มฟื้นตัวดีขึ้นจากปีก่อน และด้านการส่งออกที่มีแนวโน้มขยายตัวดีขึ้นตามทิศทางเศรษฐกิจโลก ส่วนภาคการท่องเที่ยวมีแน้วโน้มฟื้นตัว แต่ยังต้องเผชิญปัจจัยเสี่ยงจากกฎอัยการศึกและเศรษฐกิจรัสเซียชะลอตัวแรง โดยคาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำที่ 2% ยาวตลอดทั้งปี 2558


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ