ภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย: Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 13, 2015 09:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย(ThaiBMA)สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทย ( 12 ม.ค. 58) มีมูลค่าการซื้อขายรวม 72,289 ล้านบาท โดยประเภทของตราสารที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุด คือ พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 36,300 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 50.2% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมดที่เกิดขึ้นในวันนี้ ลำดับถัดมาคือ ตั๋วเงินคลัง มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 16,362 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 22.6% ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน มีมูลค่าการซื้อขายเท่ากับ 2,506 ล้านบาท หรือคิดเป็น 3.5% ของมูลค่าการซื้อขายทั้งหมด

สำหรับ พันธบัตรรัฐบาล รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุดในวันนี้คือ พันธบัตรรุ่น LB176A, LB21DA และ LB15DA (รุ่นอายุ 2.4 ปี, 6.9 ปี และ 0.9 ปี ตามลำดับ) โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 8,956 ล้านบาท หรือคิดเป็น 68% ของมูลค่าการซื้อขายพันธบัตรรัฐบาลทั้งหมด ทางด้าน หุ้นกู้เอกชน รุ่นที่นิยมซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. หุ้นกู้ไม่มีประกันของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTTC21NA) มูลค่า 604.7 ล้านบาท

2. หุ้นกู้ของ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล ออโต้ ลีส จำกัด (มหาชน) (AYCAL154A) มูลค่า 403.4 ล้านบาท

3. หุ้นกู้ของบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด (MPSC249A) มูลค่า 212.8 ล้านบาท

โดยมีมูลค่าการซื้อขายรวมกัน 1,220.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 48.7% ของมูลค่าการซื้อขายหุ้นกู้เอกชนทั้งหมดในวันนี้

ทางด้านประเภทของนักลงทุน ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงที่สุดเป็น 2 อันดับแรกในวันนี้ คือ

1. กลุ่มบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,173 ล้านบาท

2. กลุ่มสถาบันการเงินที่ไม่มีใบอนุญาตเพื่อค้าตราสารหนี้ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 3,412 ล้านบาท

ในขณะที่นักลงทุนต่างชาติ มียอดซื้อสุทธิ เท่ากับ 512 ล้านบาท

ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 3 เดือน ปิดที่ 2% ไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากเมื่อวาน และผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลอายุ 5 ปี ปิดที่ 2.22% ปรับตัวลดลงจากเมื่อวาน -0.01%

>>ภาพรวมของตลาดในวันนี้ ( 12 ม.ค. 58)

Yield Curve แกว่งตัวในกรอบแคบๆ เปลี่ยนแปลงไม่เกิน 1 bp. นักลงทุนยังคงติดตามแนวโน้มเศรษฐกิจโลก ล่าสุดตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐฯ อยู่ที่ 252,000 ตำแหน่ง ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 240,000 ตำแหน่ง และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 5.6% ดีกว่าที่คาดไว้ที่ 5.7% ด้านตลาดจับตาประเด็นเกี่ยวกับมาตรการ QE ที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณว่าจะใช้เงินจำนวน 5.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ว่าอาจจะไม่เพียงพอที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในยุโรป สำหรับนักลงทุนต่างชาติ วันนี้มียอดซื้อสุทธิ (NET BUY) เท่ากับ 512 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ