(เพิ่มเติม) SLC ฟ้องอาญาคอลัมนิสต์-ผู้บริหาร NMG,เล็งฟ้องแพ่งเรียกพันลบ.สัปดาห์หน้า

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 16, 2015 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุวัตร อภัยภักดิ์ ทนายความของ บมจ. โซลูชั่น คอนเนอร์(1998) (SLC) และ นายอารักษ์ ราษฎร์บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SLC เดินทางมาที่ศาลอาญาเพื่อยื่นฟ้องคอ 2 สำนวน โดยสำนวนแรกยื่นฟ้องนายธนา ทุมมานนท์ คอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์ และอีกสำนวนคือฟ้องนายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ ผู้บริหาร บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป (NMG) ในคดีอาญาข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาและ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ทั้งนี้ สำนวนที่ฟ้องนายธนา เนื่องจากเห็นว่าจำเลยกล่าวหาโจทก์โดยใช้ข้อมูลที่เป็นเท็จ เนื่องจากการซื้อหุ้นเพิ่มทุน NMG เป็นการซื้อในตลาดหลักทรัพย์ตามปกติ และไม่ได้ใช้เงินทุนจากกลุ่มชินวัตรตามที่กล่าวหา

"เป็นการซื้อหุ้นเพิ่มทุนในตลาด และที่กล่าวหาว่าใช้ทุนกลุ่มชินไปซื้อก็เป็นเท็จ ถ้าเป็นทุนชินจริงผมคงไม่รับทำคดีให้"นายสุวัตร ซึ่งเป็นทนายความของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กล่าว

อีกทั้งข้อกล่าวหาว่าจะเข้าไปครอบงำสื่อก็ไม่เป็นความจริง เพราะปัจจุบัน SLC ถือหุ้นในสปริงนิวส์ 99.99% แต่ก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารงาน การกระทำของจำเลยจึงส่งผลเสียหายต่อโจทก์ทำให้หุ้นที่เตรียมจะขายถูกยกเลิก ได้รับความเสียหายประมาณ 600 ล้านบาท และสัปดาห์หน้าจะยื่นฟ้องคดีแพ่งเพื่อเรียกค่าเสียหายประมาณ 1 พันล้านบาท

"การซื้อหุ้นเป็นไปตามหลักการค้า ไม่ได้มุ่งจะครอบงำสื่อ เพราะสัดส่วนที่เข้าไปซื้อแค่ 12.27% เท่านั้น ไม่ใช่ 25% ตามที่มีการกล่าวหา"นายสุวัตร กล่าว

นายสุวัตร กล่าวต่อว่า เนื่องจากโจทก์เป็นบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้ว การดำเนินการต่างๆ ที่เกี่ยวกับหุ้น ก็จะต้องแจ้งตลาดหลักทรัพย์อยู่แล้วจึงไม่ใช่การดำเนินการที่มีความซ่อนเร้น และปัญหาภายในเนชั่นก็เป็นเรื่องภายในไม่เกี่ยวกับการที่ SLC จะเข้าไปซื้อหุ้นแต่อย่างใด

ดังนั้น ที่มีการกล่าวว่าจะเข้าไปปลดใครในเนชั่นจึงไม่เป็นความจริง และที่อ้างว่าได้มอบหมายให้นายเสริมสิน สมะลาภา รองประธานกรรมการ และผู้ถือหุ้น NMG ไปรวบรวมหุ้นให้หรือผู้บริหาร SLC เดินทางไปฮ่องกงเพื่อรับเงินทุนจากพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็ไม่เป็นความจริง

นายสุวัตร ชี้แจงว่า การฟ้องดำเนินคดีกับนายธนา เนื่องจากได้โพสต์เฟสบุ๊กถึง 3 ครั้งระบุว่า SLC เป็นตัวแทนของตระกูลชินวัตร มีสื่อฟรีทีวี 6 ช่อง สามารถชี้นำสังคมชี้นำผู้คนและควบคุมทิศทางข่าวให้เป็นไปตามที่บริษัทฯ และกลุ่มชินวัตรต้องการ และใช้อำนาจในการต่อรองโฆษณาบีบบังคับให้บุคคลอื่นต้องกระทำจำยอมตามที่บริษัทฯต้องการ ซึ่งทาง SLC ยืนยันว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการบริหารสื่อฟรีทีวีใดๆ

ดังนั้น การกระทำดังกล่าวจึงเป็นกระบวนการบ่อนทำลายความน่าเชื่อถือของบริษัทฯ ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai ซึ่งทำให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงประชาชนทั่วไปเคลือบแคลงสงสัยถึงแหล่งที่มีของเงินทุนที่นำไปซื้อหุ้นของ NMG ซึ่งความจริงแล้วได้มาจากการเพิ่มทุนให้กับผู้ถือหุ้นเดิมเมื่อ 17-18 พ.ย.57 โดยได้รับเงินเพิ่มทุนทั้งสิ้น 2,192.21 ล้านบาท ถูกต้องตามหลักเกณฑ์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และโจทก์ไม่เคยเป็นตัวแทนเชินของกลุ่มชินวัตร

ส่วนนายอดิศักดิ์ ได้นำข้อความของบุคคลอื่นมาโพสต์ในเฟสบุ๊คตนเองและได้ลงข้อความอันจะทำให้ผู้อ่านเข้าใจว่า SLC หลอกล่อนักลงทุน ใช้เล่ห์เหลี่ยม อุบายให้นักลงทุนเข้ามาลงทุน ต่อมาก็มีเงินที่ไม่ทราบที่มา น่าสงสัย เงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดนำมาเพิ่มทุน และการเพิ่มทุนดังกล่าวเป็นการฟอกเงิน ผู้บริหารของโจทก์ไร้คุณธรรมจริยธรรม ซึ่งข้อความดังกล่าวเป็นเท็จทั้งสิ้น

ด้านนายอารักษ์ กล่าวว่า บริษัทดำเนินกิจการตามปกติตามคำแนะนำของที่ปรึกษาที่จะเข้าไปลงทุนในกิจการต่างๆ ที่จะส่งเสริมธุรกิจของ SLC ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถือหุ้นในสปริงนิวส์ การทำ MOU กับสำนักข่าวทีนิวส์เป็นความจริง แต่ก็ไม่เคยคิดจะเข้าไปบริหาร เพราะเห็นว่าถ้าจะส่งผู้ถือหุ้นไปบริหารงานจะเกิดปัญหาเรื่อง Conflict of Interest เพราะผู้ถือหุ้นจะคำนึงแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง

นายอารักษ์ กล่าวว่า ยังไม่มีโอกาสได้เจรจากับผู้บริหารเครือเนชั่นเลย แต่ก็ยังไม่มีแนวคิดที่จะขายหุ้น NMG เพราะถือเป็นการลงทุนระยะยาว และไม่ว่าจะไปซื้อหุ้นของบริษัทใดก็จะทำตามคำแนะนำของที่ปรึกษา และจะต้องเป็นกิจการที่จะทำให้ผลประกอบการของ SLC ดีขึ้นและต้องเป็นหุ้นที่ได้รับผลตอบแทนที่ดี

ทั้งนี้ ศาลอาญานัดไต่สวนมูลฟ้องสำนวนฟ้องนายอดิศักดิ์ 30 มี.ค.เวลา 09.00 น. ส่วนสำนวนฟ้องนายธนาศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง 13.30 น.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ