บลจ.กสิกรฯ ออกกองตราสารหนี้ 3 เดือน ล็อคผลตอบแทนสูงสุด 2.45%

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday January 19, 2015 12:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวยุพาวดี ตู้จินดา รองกรรมการผู้จัดการ บลจ.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ในวันที่ 20-26 มกราคม 2558 บลจ.กสิกรไทยจะเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน I (KFF3MI) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.30% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน T (KEFF3MT) ประมาณการผลตอบแทนหลังหักค่าใช้จ่ายกองทุนที่ 2.45% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี

ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ถือหน่วยลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุนอย่างต่อเนื่อง

ตราสารหนี้ที่กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน I (KFF3MI) จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, เงินฝาก China Construction Bank Corporation, สาขาฮ่องกง, ตราสารหนี้ Standard Bank of South Africa, ประเทศแอฟริกาใต้, ตราสารหนี้ Bank of East Asia Ltd., สาขาฮ่องกง และตราสารหนี้ Agricultural Bank of China, สาขาฮ่องกง โดยผู้ลงทุนสามารถลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำเพียง 5,000 บาท

ด้านกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน T (KEFF3MT)จะเข้าไปลงทุนในเบื้องต้นประกอบด้วยเงินฝาก Akbank T.A.S., ประเทศตุรกี, เงินฝาก Bank of China, สาขามาเก๊า, ตราสารหนี้ Yapi Kredi Bankasi A.S., ประเทศตุรกี, ตราสารหนี้ Banco BTG Pactual S.A., ประเทศบราซิล และตราสารหนี้ Agricultural Bank of China, สาขาฮ่องกง โดยกองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน และเป็นกองทุนที่เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่มีสินทรัพย์ในการลงทุนสูงและสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท

สำหรับมุมมองด้านเศรษฐกิจและการลงทุนในช่วงนี้ นางสาวยุพาวดีกล่าวเพิ่มเติมว่า บรรยากาศการลงทุนในภาพรวมยังคงได้รับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ ในขณะที่ภาวะตลาดหุ้นทั่วโลกยังค่อนข้างผันผวน โดยล่าสุดตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง เนื่องมาจากผลกระทบจากข่าวที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ ตัดสินใจยกเลิกมาตรการควบคุมเงินสกุลเงินฟรังก์ ทำให้มีการโยกเงินลงทุนจากสินทรัพย์เสี่ยงเข้าสู่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากขึ้น ด้านเศรษฐกิจยุโรปยังคงได้รับแรงกดดันจากความเสี่ยงต่อภาวะเงินฝืด และกรณีการเลือกตั้งในกรีซที่ยังไม่ได้ข้อสรุป รวมถึงเศรษฐกิจรัสเซียที่ชะลอตัวลง ซึ่งต้องคอยติดตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ว่าจะช่วยลดแรงกดดันต่อภาวะดังกล่าวได้หรือไม่

ทั้งนี้ ผู้ลงทุนที่สนใจกระจายการลงทุนไปยังต่างประเทศ แต่ยังกังวลต่อภาวะความผันผวนของตลาดหุ้นในช่วงนี้ บลจ.กสิกรไทย แนะนำให้กระจายการลงทุนไปยังตราสารหนี้ต่างประเทศแบบที่มีกำหนดระยะเวลาแทนก่อนเพื่อ ล็อกอัตราผลตอบแทน พร้อมทั้งรอจังหวะเข้าลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ