(เพิ่มเติม) PSTC เจรจาพันธมิตรตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในพม่า-ฟิลิปปินส์คาดสรุปปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 9, 2015 12:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพระนาย กังวาลรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่ บมจ.เพาเวอร์ โซลูชั่น เทคโนโลยี (PSTC) เปิดเผยถึงแนวโน้มการลงทุนในต่างประเทศว่า ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่าศึกษาความเป็นไปได้การเข้าร่วมลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในประเทศต่างๆที่จำหน่ายไฟฟ้าในเชิงพาณิชย์แล้ว รวมถึงศึกษาการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในกลุ่มประเทศในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) ซึ่งขณะนี้ได้เข้าไปเจรจากับพันธมิตรในประเทศฟิลิปปินส์และพม่าแล้ว คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้

บริษัทตั้งเป้ารายได้ในปี 58 เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% โดยส่วนแรกจะมาจากการเติบโตในธุรกิจออกแบบ จำหน่าย และติดตั้งระบบจ่ายไฟฟ้าและตรวจวัดจัดการสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพสูง สำหรับระบบสื่อสารโทรคมนาคมให้กับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งระบบสำรองไฟฟ้า ระบบตรวจวัดและจัดการสภาพแวดล้อม ระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนและระบบประหยัดพลังงาน

ปัจจุบัน บริษัทมีงานในมือ(Backlog) มากกว่า 400 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้เป็นรายได้ในปีนี้มากกว่า 50% และมั่นใจว่าจะมีงานใหม่ๆเข้ามาจากนโยบายภาครัฐฯที่สนับสนุนเศรษฐกิจแบบดิจิตอล อีโคโนมี และจะมีการเปิดประมูลระบบ 4G ในปีนี้

นอกจากนี้ บริษัทจะสามารถรับรู้รายได้จากงานโซลาร์ฟาร์มอีก 1 เมกะวัตด์ที่จะเริ่มจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จากเดิมที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 4 เมกะวัตด์ รวมทั้งมีแผนสร้างโรงงานชีวมวล 7 โครงการ โดยจะเริ่มก่อสร้างในปีนี้ 2 โครงการ กำลังการผลิตแห่งละ 1 เมกะวัตด์ งบลงทุนราว 33 ล้านบาท/โรง ส่วนอีก 5 โครงการอยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายไฟ(PPA) กภาครัฐฯที่คาดว่าจะมีความชัดเจนในเดือน พ.ค.นี้

ขณะเดียวกัน บริษัทมีแผนที่จะสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์อีก 1 แห่ง กำลังการผลิต 1 เมกะวัตด์ มูลค่าการลงทุนราว 15 ล้านบาท

นายพระนาย กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทฯจะให้ความสำคัญกับการรุกธุรกิจพลังงานทดแทนมากขึ้น โดยยื่นขอภาครัฐพิจารณารับซื้อไฟฟ้าในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม โรงไฟฟ้าชีวมวล โรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ โรงไฟฟ้าจากขยะ ในรูปแบบ Feed-in-Tariff หรือ FiT ล่าสุดบริษัทฯได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการบริหารขยะ จำนวน 500 ตัน/วัน กับ อบจ. อุบลราชธานี และยื่นแบบคำขอ FiT คาดว่าหลังจากภาครัฐฯตอบรับแล้วจะมีการก่อสร้างต่อไป นอกจากนี้โครงการเดิมในจังหวัดสุรินทร์ที่อยู่ระหว่างขอ PPA โดยคาดว่าจะได้ในปีนี้

"เรามีแผนขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากไฟฟ้าจากปีก่อนที่ 15% เพื่อที่จะเป็นการลดความเสี่ยงจากธุรกิจเดิม ในขณะเดียวยังเป็นการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นให้สูงขึ้นด้วยของบริษัทฯให้สูงขึ้นด้วย เพราะธุรกิจเดิมของบริษัทฯมีอัตรากำไรขั้นต้นราว 20-25% แต่ในธุรกิจไฟฟ้ามีอัตรากำไรขั้นต้นสูงถึง 60-70%"นายพระนาย กล่าว

ส่วนผลประกอบการในปี 57 บริษัทมีรายได้รวม 448 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.84% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 38.61 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 169.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นเป็นผลจากการรุกขยายธุรกิจพลังงานทดแทนที่สามารถจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ในโครงการต่างๆ ได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน ยังมีรายได้เพิ่มจากการรับจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่สูงขึ้น โดยสามารถบริหารจัดการด้านต้นทุนดำเนินงานได้ดี ทำให้ความสามารถทำกำไรของบริษัทดีขึ้น นอกจากนี้บริยังมีกำไรพิเศษจากการขายกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ จ.มหาสารคามอีก 20.30 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ