การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,534.75 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,517.30 จุด
นายชัยพร น้อมพิทักษ์ ผู้ช่วยกรรมการอำนวยการ บล.บัวหลวง กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ซึมตัวลง เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ลบราว 0.2-0.3% โดยหุ้นขนาดเล็กที่ Active ในทางขาลง รวมถึงหุ้น JAS ก็ปรับตัวลง ขณะที่หุ้นกลุ่มรับเหมาฯทรงตัวและปรับลงเช่นกัน มองว่าตลาดฯยังอยู่ในภาวะทรงตัวและซึมเพื่อรอปัจจัยหรือข่าวใหม่เข้ามา
สำหรับประเด็นที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)จะไม่เร่งรีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยดูเหมือนว่าจะมีผลต่อตลาดฯเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น ขณะที่สิ้นเดือนนี้คงต้องรอติดตามว่าธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)จะประกาศตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอย่างไร และ pre-view ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ช่วงกลางเดือนเม.ย.ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมาการค้าไม่ดี จึงทำให้คาดว่ากำไรในไตรมาส 1/58 ก็คงจะออกมาไม่ดีเช่นกัน รวมทั้งติดตามประสิทธิภาพการเบิกจ่ายงบฯของภาครัฐ
ส่วนปัจจัยจากนอกประเทศก็ให้ติดตามเรื่องความช่วยเหลือกรีซ, ราคาน้ำมันดิบ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายชัยพร กล่าวว่า ตลาดฯคงจะซึมตัวลง หากยังไม่มีประเด็นใหม่ที่ทำให้ตลาดฯ active ได้ และให้ติดตามตัวเลข PMI ของหลาย ๆ ประเทศที่จะทยอยประกาศออกมา โดยเฉพาะจีนและอินโดนีเซีย พร้อมให้แนวรับ 1,520 จุด ส่วนแนวต้าน 1,534 จุด
ด้านนายสมชาย เอนกทวีผล ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะหฺ์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซียไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงบ่ายนี้มองว่าน่าจะเคลื่อนไหวในลักษณะทรงตัวไปในด้านลบ พร้อมให้แนวรับ 1,515-1,510 จุด ส่วนแนวต้าน 1,525-1,535 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
JAS มูลค่าการซื้อขาย 3,196.75 ล้านบาท ปิดที่ 6.25 บาท ลดลง 0.35 บาท
TRUE มูลค่าการซื้อขาย 871.46 ล้านบาท ปิดที่ 12.90 บาท ลดลง 0.10 บาท
ITD มูลค่าการซื้อขาย 739.11 ล้านบาท ปิดที่ 7.20 บาท ลดลง 0.60 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 616.43 ล้านบาท ปิดที่ 227.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 502.53 ล้านบาท ปิดที่ 249.00 บาท ลดลง 2.00 บาท