นายจรัมพร กล่าวว่า ขณะนี้ทางการญี่ปุ่นเพิ่มความเข้มงวด โดยสั่งห้ามเครื่องบินเช่าเหมาลำ(ชาร์เตอร์ไฟล์ท)ของสายการบินของไทยไปยังประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่เดือน เม.ย.นี้ รวมทั้งไม่ให้เปลี่ยนจุดบิน เปิดจุดบินใหม่ และเปลี่ยนขนาดเครื่องบินที่ได้รับอนุญาตไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินชาร์เตอร์ไฟล์ทของ THAI จำนวน 5 เที่ยวบินที่เตรียมขออนุญาตทำการบินในช่วงไฮซีซั่นที่นักท่องเที่ยวไทยนิยมเดินทางไปญี่ปุ่นกันมากในเดือน เม.ย. ขณะที่ตารางบินฤดูหนาวที่จะเริ่มในเดือน ต.ค.58 นี้ THAI คงจะเพิ่มความถี่บินไปญี่ปุ่นไม่ได้เท่านั้น
แต่หาก บพ.ยังไม่สามารถแก้ไขมาตรฐานตามที่ ICAO ได้ ก็อาจจะมีผลกระทบต่อการขยายเส้นทางบินใหม่ไปยังญี่ปุ่นในปีหน้า
"ตารางการบินฤดูร้อนที่ญี่ปุ่นให้ก่อนหน้านี้ก็ไม่กระทบ ตารางฤดูหนาวปีนี้ก็คงเพิ่มไม่ได้ แต่ก็ไม่กระทบกับเราเท่าไร เพราะแผนปีนี้เรามีแผนลด แต่ปีหน้าที่เราจะเพิ่มไฟล์ท ก็อาจจะไม่ได้ จนกว่าบพ.จะแก้ไขได้ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเมื่อไร"นายจรัมพร กล่าว
อย่างไรก็ตาม นายจรัมพร เห็นว่า ในช่วงนี้เป็นช่วงนักท่องเที่ยวไทยนิยมเดินทางไปญี่ปุ่นค่อนข้างมาก ซึ่งมีส่วนใช้บริการเครื่องบินแบบเช่าเหมาลำ ดังนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทางการญี่ปุ่นสั่งห้ามชาร์เตอร์ไฟล์ทของสายการบินสัญชาติไทย ก็คงมีปัญหากันบ้าง ซึ่ง THAI ก็อาจจะไม่ได้ประโยชน์จากเรื่องนี้มากนัก เพราะเป็นคนละตลาดกัน คงไม่ได้ทำให้ผู้โดยสารเพิ่มขึ้น แต่มองว่าสายการบินต่างชาติอาจจะได้ประโยชน์ สามารถชิงตลาดนักท่องเที่ยวไทยไปญี่ปุ่นได้มากขึ้น
ปัจจุบัน THAI มีเส้นทางไปญี่ปุ่น ที่โตเกียว โดยที่สนามบินนาริตะทำการบิน 21 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และที่สนามบินฮาเนดะ ทำการบิน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โอซากา ทำการบิน 14 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, นาโกย่า ทำการบิน 12 เที่ยวบินต่อสัปดาห์, ฟุกุโอกะ ทำการบิน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ และซัปโปโร ทำการบิน 7 เที่ยวบินต่อสัปดาห์
อนึ่ง สายการบินที่ได้ยื่นขอทำการบินแบบเช่าเหมาลำจากประเทศไทยไปยังญี่ปุ่น แต่ได้รับแจ้งว่าไม่อนุญาต ได้แก่ 1) สายการบินไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์ ไม่ได้รับอนุญาตให้เพิ่มสนามบินที่จะทำการบินไปในเส้นทางฮอกไกโด 2) สายการบินนก สกู๊ต ไม่ได้รับอนุญาตให้บินเช่าเหมาลำรับขนในช่วงสงกรานต์ ไปยังเมืองเกียวโต และโอซากา 3) สายการบิน เอเชีย แอตแลนติก ไม่ได้รับอนุญาตให้บินเช่าเหมาลำในช่วงเทศกาลสงกรานต์