(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นตามตปท.หลังปธ.เฟดส่งสัญญาณไม่เร่งรีบขึ้นดบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday March 30, 2015 09:42 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกในช่วงเช้านี้ ภายหลังจากที่ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ที่ออกมาส่งสัญญาณว่าจะไม่เร่งรีบขึ้นอตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ทำให้ความเสี่ยงจากต่างประเทศลดลง

อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราอาจมีปัจจัยกดดันจากตลาดอนุพันธ์ที่วันนี้จะเป็นวันที่มีการปิดสัญญาอนุพันธ์ ซึ่งนักลงทุนต่างชาติได้ทำ short ไว้มากในช่วงที่ผ่านมา อาจจะทำให้ดัชนีฯมีความผันผวนสูงได้ โดยเฉพาะในช่วงใกล้ปิดเทรด

ทั้งนี้ ตลาดฯยังมีความหวังจากปัจจัยในประเทศในการทำ Window Dressing ก่อนปิดงบฯไตรมาส 1/58 และแรงหนุนจากทริกเกอร์ฟันด์ รวมถึงหากมีการยกเลิกกฎอัยการศึกจริงก็อาจจะทำให้สถานการณ์ดูดีขึ้น และยังช่วยหนุนกลุ่มท่องเที่ยวได้บ้าง แต่กลุ่มท่องเที่ยวเวลานี้ก็เจอปัญหาเรื่อง ICAO อยู่ แต่ก็เชื่อว่าหากยกเลิกจริงก็ยังไม่น่าจะทำให้ตลาดฯกลับมาในทันทีทันใด

พร้อมให้แนวรับ 1,480 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505-1,510 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(27 มี.ค.58)ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,712.66 จุด เพิ่มขึ้น 34.43 จุด(+0.19%),ดัชนี
NASDAQ ปิดที่ 4,891.22 จุด เพิ่มขึ้น 27.86 จุด(+0.57%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,061.02 จุด เพิ่มขึ้น 4.87 จุด(+0.24%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 9.58 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.51 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 241.26 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 29.66 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.80 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ ลดลง 8.16 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.15 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(27 มี.ค.58)1,495.22 จุด ลดลง 1.19 จุด(-0.08%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,116.10 ล้านบาท เมื่อวันที่ 27 มี.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(26 มี.ค.58) ปิดที่ 48.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ลดลง 2.56 ดอลลาร์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(27 มี.ค.58)ที่ 8.43 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.60/62 แนวโน้มอ่อนค่าจาก flow ซื้อดอลล์ช่วงสิ้นเดือน
  • แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเก็บภาษีของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2558 ยังไม่ดีขึ้น โดยเฉพาะกรมสรรพากรที่เดิมคาดว่าจะเก็บภาษีต่ำกว่าเป้าประมาณ 1.6 แสนล้านบาท แต่ล่าสุดคาดว่าจะมีรายได้อาจต่ำกว่าเป้าถึง 2 แสนล้านบาท เนื่องจากการประเมินการเก็บภาษีกรมสรรพากรในครั้งก่อนนั้น ราคาน้ำมันสูงกว่าปัจจุบัน ทำให้การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (แวต) จากการนำเข้าน้ำมันไม่ถูกกระทบมาก
  • กองทุนฟื้นฟูฯจ่ายหนี้ 4 พันล้านบาทในช่วง 2 เดือนแรกปี 58 แหล่งเงินจากเงินนำส่งจากสถาบันการเงินและนำไปจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยพันธบัตร FIDF1 และพันธบัตร FIDF2 ทำให้เงินต้นพันธบัตรสองรุ่นเหลือ 1.07 ล้านล้านบาท และมียอดรวมจ่ายชำระหนี้ไปแล้วทั้งสิ้น 1.81 แสนล้านบาท
  • ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจทีเอ็มบีระบุส่งออกเดือนก.พ.หดตัวกว่าที่คาด ส่งผล 2 เดือนแรกหดตัว 4.8% และแม้เงินบาทอ่อนค่าจะช่วยภาคส่งออก แต่ยังมีอุตสาหกรรมบางกลุ่มได้รับผลกระทบ ไม่ว่าจะเป็น พลังงาน เคมีภัณฑ์ หรือ เครื่องจักร แนะผู้ประกอบการควรขยายตลาดส่งออกเพิ่มเติมมากกว่าหวังเงินบาทอ่อนช่วยเพียงอย่างเดียว
  • กนอ.ประกาศเชิญชวนภาคเอกชนยื่นข้อเสนอพื้นที่เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมตามนโยบายรัฐบาลระยะที่ 2 ได้แก่นิคมฯในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ตั้งตั้งในเขต จังหวัดขอนแก่น นครพนม มุกดาหาร สกลนคร และอุบลราชธานี ส่วนนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ต้องตั้งในเขต จังหวัดตาก ลำปาง กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิษณุโลก พะเยา เชียงใหม่ เอกชนสามารถยื่นเสนอพื้นที่ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 15 พฤษภาคม 2558

*หุ้นเด่นวันนี้

  • KBANK(ฟินันเซีย ไซรัส)"ซื้อ"เป้า 260 บาท ยังเป็น Top pick ของกลุ่ม คาดกำไรสุทธิ 1Q15 จะอยู่ในระดับที่ดีมากและอาจเป็นไตรมาสที่ดีสุดของปีนี้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาท +30% Q-Q, +8% Y-Y โดยคาดสินเชื่อ +2% YTD สูงกว่ากลุ่มที่เพิ่มเพียง 0-1% YTD และได้อานิสงส์จากต้นทุนการเงินที่ต่ำในปีก่อนซึ่งทำให้ NIM น่าจะอยู่ในระดับสูงที่ 3.7% แต่ปรับกำไรสุทธิปีนี้ลง 3% เหลือโต 5% Y-Y โดยปรับลดการเติบโตของสินเชื่อจากเดิม 9% เป็น 8% NIM จาก 3.74% เป็น 3.70% และการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมจาก 14% เป็น 12%
  • CENTEL(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อ"เป้า 41.50 บาท ระยะสั้นมีปัจจัยกระตุ้นจากการฟื้นตัวและเติบโตที่ดีของภาคท่องเที่ยว และโอกาสที่คสช.จะยกเลิกการใช้กฎอัยการศึกมีมากขึ้น ส่วนระยะยาวเป็นเรื่องของการลงทุนใหม่ ๆ ซึ่งบริษัทจะเน้นลงทุนในต่างประเทศเพื่อกระจายฐานรายได้และความเสี่ยงทางธุรกิจให้มากขึ้น ความเสี่ยงหลัก คือ ปัญหาการเมือง และเศรษฐกิจภายในซบเซากว่าที่คาด ทั้งนี้ ธุรกิจฟื้นตัวดีต่อใน 1Q58 ในช่วง 2M58 อัตราการเข้าพักของโรงแรมเพิ่มเป็น 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 75% และ RevPar เพิ่มขึ้นได้ 7%YoY ส่วนธุรกิจอาหารมี SSSG ที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน รวมทั้ง EBITDA Margin ของอาหารก็ดีขึ้นด้วย
  • TASCO(เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"ทยอยสะสม"เป้า 120 บาท ราคาหุ้นมี Catalyst รออยู่ เนื่องจากจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นเพื่ออนุมัติแตกพาร์จาก 10.00 บาท เป็น 1.00 บาท ในวันที่ 7 เม.ย. คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการปี 2558 เนื่องจากได้ประโยชน์โดยตรงจากราคาน้ำมันดิบที่ลดง ซึ่งเป็นต้นทุนหลักในการผลิตยางมะตอย ขณะที่ราคาขายยางมะตอยปรับตัวลงในอัตราที่ช้ากว่าต้นทุนที่ลดลง จะช่วยหนุนอัตรากำไรขั้นต้นปี 2558 ให้เร่งตัวขึ้น เบื้องต้นคาดกำไรสุทธิ 1Q58 จะเติบโต qoq เป็น 550-600 ล้านบาท และเป็นระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสของบริษัทอีกครั้งต่อเนื่องจาก 4Q57 ที่ผ่านมา และ Valuation น่าสนใจ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ