(เพิ่มเติม) PTT ตั้งงบลงทุนทั้งกลุ่มตามแผน 5 ปี(58-62)รวม 9.8 แสนลบ.เน้น PTTEP

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday April 9, 2015 17:37 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บมจ.ปตท.(PTT)ตั้งงบลงทุนของกลุ่มในช่วง 5 ปี(ปี 58-62)รวม 9.8. แสนลบ ส่วนใหญ่เป็นการลงทุนของ บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP)ในสัดส่วน 54% กลุ่มปิโตรเคมีและการกลั่น 15% กลุ่มน้ำมันและการค้าระหว่างประเทศ 3% ก๊าซธรรมชาติ 17% โครงสร้างพื้นฐาน 1% ธุรกิจร่วมทุนและเงินลงทุนของบริษัทย่อย 9% การวิจัยและพัฒนา 1%

ทั้งนี้ หากแยกจากพื้นที่การลงทุนจะเป็นการลงทุนในประเทศ 58% เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 21% ตะวันออกกลางและแอฟริกา 13% และอื่นๆ 8%

แผนลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ พลาสติกชีวภาพ ผลิตภัณฑ์พลาสติกเฉพาะทาง การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจก๊าซ ท่อส่งก๊าซเส้นที่ 4 และส่วนต่อขยาย การขยายสถานีบริการในอาเซียน ธุรกิจถ่านหิน สถานีรับ-จ่ายก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นต้น

นายณัฐชาต จารุจินดา ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นต้นและก๊าซธรรมชาติ PTT กล่าวว่า ตามแผนการลงทุนของธุรกิจก๊าซธรรมชาติ ในช่วง 5 ปีจะมีการขยายกำลังการผลิตแบบคอขวดของโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งที่ 3 และ 5 ใช้เงินลงทุนราว 5 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะได้ก๊าซปิโตรเลียมเหลว(LPG) เพิ่มขึ้นราว 1-3 แสนตัน/ปี เพื่อใช้บริโภคภายในประเทศ โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนในปีนี้

ขณะที่การสร้างโรงแยกก๊าซฯแห่งที่ 7 บริษัทมองว่าเป็นการลงทุนสูง และใช้เวลาคืนทุนนานถึง 10-20 ปี ขณะที่ยังไม่มีหลักประกันถึงปริมาณก๊าซฯในประเทศ จึงยังไม่มีแผนลงทุนในขณะนี้

ส่วนแผนแม่บทระบบก๊าซธรรมชาติที่เตรียมเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.)จะมีวงเงินลงทุนราว 2 แสนล้านบาท ซึ่งจะเป็นการก่อสร้างท่อส่งก๊าซฯบนบกเส้นที่ 5 การสร้างคลังก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ภาคใต้ของไทย และเมียนมาร์ รวมถึงการสร้างคลัง LNG เฟสที่ 3 ด้วย เป็นต้น

ด้านนายไพรินทร์ ชูโชติถาวร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ของ PTT กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจของกลุ่ม ปตท.ในช่วงไตรมาส 2/58 โดยคาดว่าธุรกิจพาราไซลีน(PX) ของบมจ.ไทยออยล์(TOP) และบมจ.พีทีที โกลบอล เคมิคอล(PTTGC)ที่เคยมีผลประกอบไม่ดีนั้น มีแนวโน้มที่จะดีขึ้นหลังจากเกิดเหตุระเบิดในโรงงานพาราไซลีนขนาดใหญ่ในจีนเมื่อเร็วๆนี้ ทำให้คาดว่าต้องใช้เวลานาน 1-2 ปี ในการแก้ปัญหา เชื่อว่าจะทำให้ปริมาณการผลิตและความต้องการใช้สมดุลกันมากขี้น

“โรงงานในจีนใหญ่กว่าความเป็นจริง คิดว่าสถานการณ์นี้ยังอีกนาน ทำให้ over supply ของ PX หายไป ปัญหาของ PTTGC และ TOP คือมาร์จิ้น PX ไม่ดีมาเป็นเวลาปีกว่าๆ พอมีเหตุการณ์ระเบิดตรงนี้ ก็น่าจะเป็นไปในทางบวก ทำให้ซัพพลาย ดีมานต์ของ PX ดีขึ้น ราคา PX ก็กระโดดขึ้นมา"นายไพรินทร์ กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ