TTCL คาดกำไรแตะ 2.5 พันลบ.ปี 63/ส่งธุรกิจพลังงานเข้าตลาดหุ้นสิงคโปร์ปี 59

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday April 21, 2015 17:09 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกอบชัย ธนสุกาญจน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินการบัญชี บมจ.โตโย-ไทย คอร์ปอเรชั่น(TTCL)เปิดเผยว่า บริษัทประเมินว่ากำไรสุทธิจะพุ่งแตะ 2.5 พันล้านบาทภายในปี 63 จากปีนี้ที่คาดว่ากำไรจะฟื้นตัวจากปี 57 ที่มีกำไรราว 460 ล้านบาท หลังจากบริษัทเดินหน้าขยายธุรกิจพลังงาน ด้วยการลงทุนในโรงไฟฟ้าถ่านหินและพลังงานทดแทน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีแผนจะนำธุรกิจพลังงานภายใต้ Toyo Thai Power Holding Pte.Ltd (TTPHD) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์เพื่อระดมทุนในช่วงปลายปี 59

ทั้งนี้ โครงสร้างกำไรของบริษัทในปี 63 จะมาจากธุรกิจพลังงานราว 1 พันล้านบาท หลังจากโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่าขนาดกำลังผลิต 1,280 เมกะวัตต์เดินเครื่องได้เต็มที่ทั้งปี ซึ่งคาดว่าจะทำรายได้ราว 2 หมื่นล้านบาท/ปี ขณะที่กำไรอีกส่วนหนึ่งราว 1-1.5 พันล้านบาทจะมาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่บริษัทได้เข้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารับงานอย่างน้อยปีละ 800 ล้านเหรียญสหรัฐไนช่วง 4 ปีข้างหน้า(ปี 58-61)

สำหรับผลประกอบการในปีนี้ นายกอบชัย กล่าวว่า บริษัทได้ตั้งเป้ารายได้เติบโต 10-15% จากปี 57 ที่มีรายได้ 1.98 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นมาที่ 2.05 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะมาจากรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าก๊าซ 500 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากงานรับเหมาก่อสร้างในปีนี้ที่ 1.8-2 หมื่นล้านบาท จากมูลค่างานในมือ(Backlog) ปัจจุบันที่มีอยู่ 3.4 หมื่นล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการรอผลประมูลงานรับเหมาก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในสปป.ลาว โดยมั่นใจว่าจะได้รับงานมูลค่า 250 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งโครงการดังกล่าวจะประกาศผลออกมาในช่วงไตรมาส 2/57

ด้านการลงทุนธุรกิจพลังงาน ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาลงทุนโครงการโซลาร์ฟาร์มขนาด 40 เมกะวัตต์ในประเทศญี่ปุ่น โดยจะเป็นการลงทุนร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาสัดส่วนในการลงทุนคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ และการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่า คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งหมด 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ

นายกอบชัย กล่าวว่า เงินลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าส่วนหนึ่งราว 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯจะมาจากการนำบริษัท TTPHD เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สิงคโปร์ โดยบริษัทมีสัดส่วนการถือหุ้นใน TTPHD ราว 58% และหลังจากการเข้าจดทะเบียนสัดส่วนจะลดลงเหลือ 30% ส่วนเงินลงทุนที่เหลืออีก 2.5 พันล้านเหรียญสหรัฐ จะมาจากเงินทุนของบริษัทและพันมิตรท้องถิ่น 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน 2.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ

ความคืบหน้าของโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินในพม่าอยู่ระหว่างการยื่นขอใบอนุญาตขายไฟในพม่า คาดว่าจะมีความชัดเจนช่วงไตรมาส 3/58 และจะเริ่มก่อสร้างได้ช่วงต้นปี 59 ซึ่งจะแล้วเสร็จสมบูรณ์และสามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้เต็มที่ในปี 63 โครงการดังกล่าวบริษัทคาดว่าจะใช้ระยะเวลาคืนทุน 11 ปี ให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุน(IRR)ที่ 12-18% และให้อัตรากำไรสุทธิที่ 15%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ