การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,571.50 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,563.74 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในช่วงเช้าที่ผ่านมาดัชนีฯแกว่งตัวในกรอบแคบ-อิงแดนลบ ส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยราคาน้ำมันในตลาดโลกมีการปรับตัวลง ส่งผลกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่มีการปรับตัวลงตาม ประกอบการประกาศผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/58 ของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่ออกมาทั้งหมดแล้วนั้นไม่ได้มีสิ่งที่สร้างเซอร์ไพร์สให้กับตลาด
ขณะที่ตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียการเคลื่อนไหวของดัชนีฯในบางประเทศเป็นบวก อย่างเช่น ตลาดหุ้นฮ่องกงและจีน และตลาดในบางประเทศดัชนีฯเคลื่อนไหวเป็นลบ โดยเฉพาะตลาดหุ้นในกลุ่ม TIP ซึ่งปัจจัยที่มีผลส่วนหนึ่งมาจากราคาน้ำมันที่มีการปรับตัวลดลง
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ น.ส.ธีรดา คาดว่า ดัชนีฯจะยังแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยการย่อตัวของราคาน้ำมันยังคงกดดันคตลาดฯอยู่ แต่ยังมีแรงหนุนจาก Fund Flow จากต่างชาติที่กลับเข้ามาซื้อมากขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้
"บ่ายนี้ SET ก็คงยังไม่ไปไหนไกล คงยังแกว่งตัวในกรอบแคบ ปัจจัยราคาน้ำมันที่ลดลงยังคงกดดันอยู่ แต่มองว่า Downside ไม่เยอะ เพราะยังมีแรงหนุนจาก Flow ต่างชาติที่เข้ามาในช่วง 2-3 วันนี้ ปัจจัยอื่นๆ ยังไม่โดดเด่นมากนัก หลังแบงก์ประกาศงบไปหมดแล้ว ต่อไปก็คงเป็นการเล่นเก็งงบในหุ้นกลุ่มอื่น ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญก็จะไปอยู่ในสัปดาห์หน้าในการประชุมเฟด"น.ส.ธีรดา กล่าว
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
KTB (XD) มูลค่าการซื้อขาย 2,361.20 ล้านบาท ปิดที่ 21.80 บาท ลดลง 1.10 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,107.41 ล้านบาท ปิดที่ 228.00 บาท ลดลง 4.00 บาท
BBL (XD) มูลค่าการซื้อขาย 957.27 ล้านบาท ปิดที่ 189.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPF มูลค่าการซื้อขาย 762.29 ล้านบาท ปิดที่ 24.10 บาท ลดลง 0.40 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 596.78 ล้านบาท ปิดที่ 352.00 บาท ลดลง 2.00 บาท