COLOR มั่นใจปีนี้เทิร์นอะราวด์ขยายลูกค้า ตปท.กำไร Q2/58 โตต่อเนื่อง

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday May 18, 2015 11:31 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายขวัญชัย ณัฎฐ์เศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บมจ.สาลี่ คัลเล่อร์(COLOR)เปิดเผยว่า แนวโน้มอุตสาหกรรมพลาสติกมีอัตราการเติบโตสูงกว่าจีดีพีของประเทศอย่างต่อเนื่องทุกปี ขณะเดียวกันราคาน้ำมันและปิโตรเคมีที่ปรับตัวลดลงตั้งแต่ช่วงปลายปี 57ทำให้ต้นทุนของผู้ประกอบการลดลง ส่งผลให้ราคาสินค้าในตลาดปรับตัวลดลง ซึ่งช่วยกระตุ้นความต้องการใช้เพิ่มมากขึ้น ทั้งในตลาดบรรจุภัณฑ์สินค้าอุปโภคบริโภค อุตสาหกรรมการก่อสร้าง อุปกรณ์ทางการแพทย์ อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ตลอดจนอุตสาหกรรมรถยนต์ จากสาเหตุดังกล่าวจึงทำให้เห็นโอกาสที่ผลประกอบการปีนี้จะมีอัตราการเติบโตที่ดี เป็นปีที่ดีของ COLOR และหวังไว้ว่าผลการดำเนินงานจะกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้

บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้ในปีนี้เติบโตประมาณ 4-5% สอดคล้องกับตัวเลขจีดีพีของประเทศปีนี้ที่คาดว่าจะเติบโต 3.5-4% อย่างไรก็ตาม หากสภาพเศรษฐกิจมหภาคฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ และโครงการที่พัฒนาร่วมกับคู่ค้ามีปริมาณคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็มีโอกาสทำให้รายได้ในปีนี้สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้

ในปีนี้ยังคงนโยบายไม่เพิ่มการลงทุน แต่เราจะเร่งเพิ่มส่วนแบ่งตลาด(มาร์เก็ตแชร์) เพื่อเติมเต็มกำลังการผลิต จากปัจจุบันใช้กำลังการผลิตเพียง 60%เมื่อเทียบกับกำลังการผลิตสูงสุดอยู่ที่ 40,000 ตันต่อปี พร้อมมุ่งเน้นสร้างผลการดำเนินงานให้เกิดกำไรในสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว

นอกจากนี้ ในปีนี้บริษัทกำลังดำเนินการขยายฐานลูกค้าไปยังตลาดต่างประเทศเพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นการเพิ่มฐานรายได้ให้มั่นคงและครอบคลุมยิ่งขึ้น เช่น ญี่ปุ่นและออสเตรเลีย จากเดิมที่มีการส่งออกไปยังประเทศ เวียดนาม มาเลเซีย อินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ โดยคาดว่าสัดส่วนการส่งออกปีนี้จะเพิ่มขึ้นเป็น 21% จากปีก่อนที่มีสัดส่วน 19% ของยอดขายรวม

แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/58 คาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตามภาวะการฟื้นตัวของเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ประกอบกับราคาน้ำมันที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ ทำให้มีคำสั่งซื้อจากคู่ค้าเข้ามามากขึ้น ทั้งในกลุ่มหีบห่อบรรจุภัณฑ์ กลุ่มก่อสร้าง และตลาดส่งออก โดยกลยุทธ์หลักในการดำเนินธุรกิจ ยังคงใช้ "การพัฒนาคุณภาพสินค้าเพื่อนำการขยายส่วนแบ่งตลาด" ตามนโยบาย "คุณภาพคุ้มราคา"

ไตรมาส 1/58 บริษัทมีรายได้รวม 214.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5%จากช่วงปีก่อนที่มีรายได้รวม 211.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ10.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้นประมาณ 300% จากช่วงปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 2.57 ล้านบาท

"ผลการดำเนินงานในไตรมาสนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยเฉพาะในส่วนของกำไรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากต้นทุนวัตถุดิบปรับตัวลดลงตามทิศทางของราคาน้ำมัน ขณะที่ปริมาณคำสั่งซื้อที่เริ่มฟื้นกลับคืนขึ้นจากกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายต่างๆได้เป็นอย่างดี" นายขวัญชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ