ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นๆที่ไม่สามารถชำระเงินงวดที่ 2 ได้ตามกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หรือไม่เกินวันที่ 25 พ.ค.58 ทางสำนักงาน กสทช. จะดำเนินการส่งหนังสือแจ้งเตือนไปยังผู้ประกอบการนั้นๆ และให้มีการชำระค่าเบี้ยปรับ 7.5%ต่อปี ตามประกาศกสทช.กำหนด แต่อย่างไรก็ตามในกรณีที่เพิกเฉยไม่นำเงินมาชำระเป็นระยะเวลา 1 ปี หรือนับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค.58 ถึง 25 พ.ค.59 ทางกสทช.จะมีมาตรการอื่นๆในส่วนนี้ ซึ่งจะนำเสนอมาตรการต่อบอร์ด กสทช.อีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิจารณาถึงว่าจะดำเนินการยึดใบอนุญาตหรือไม่
อย่างไรก็ตาม มีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลหลายรายเข้ามายื่นหนังสือขอสงวนสิทธิ์ในการฟ้องร้องต่อสำนักงาน กสทช. เพื่อยืนยันว่าได้รับความเสียหายจริง และจะร่วมกับผู้ผลิตกล่องทีวีดิจิตอล และผู้บริโภคที่ได้รับความเสียหายจากการรับชมทีวีดิจิตอลยื่นฟ้องต่อศาลปกครองเพื่อเรียกร้องให้กสทช.ดำเนินงานตามแผนแม่บท ตามที่ได้ประกาศไว้ช่วงก่อนการประมูลทีวีดิจิตอล ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแจกคูปองสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านไปสู่ทีวีดิจิตอล, การขยายโครงข่าย คุณภาพของสัญญาณ,การประชาสัมพันธ์ โดยมองว่ากสทช.ควรจะทำหน้าที่ หรือตามแผนแม่บทเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนผ่านไปสู่ทีวีดิจิตอลได้ 100% ภายในปี 61
นอกจากนี้ บอร์ด กสทช. ยังมีมติให้ทางสำนักงาน กสทช.รีบดำเนินการแจกคูปองเพิ่มเติมอีกในส่วนที่ยังขาดอยู่ เพื่อให้ครบจำนวน 22.8 ล้านครัวเรือน โดยทางกสทช.จะทำหนังสือเพื่อหารือไปยังคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐ(คตร.) และนำเสนอต่อหัวหน้าคสช.ต่อไป เพื่ออนุมัติการแจกคูปองเพิ่มเติมออกไปส่วนการขยายโครงข่าย ขณะนี้มีการดำเนินการเร็วกว่าแผนที่กำหนดไว้
นายฐากร เปิดเผยว่า จนถึงเวลา 16.30 น. ของวันนี้ (22 พ.ค.) มีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทีวีเข้ามาชำระค่าประมูลทีวีดิจิตอล งวดที่ 2 แล้ว เป็นจำนวน 16 ราย รวมเป็นจำนวนเงินที่นำมาชำระทั้งสิ้น 6,647.375 ล้านบาท โดยเป็นผู้ประกอบการที่มายื่นในวันนี้ จำนวน 14 ราย ได้แก่ 1.บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง3 HD ชำระจำนวน 700.850 ล้านบาท 2.บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่อง PPTV HD ชำระจำนวน 693.360 ล้านบาท 3.บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ช่อง MCOT HD ชำระจำนวน 680.520 ล้านบาท 4.บริษัท อมรินทร์ เทเลวิชั่น จำกัด ช่อง Amarin TV HD ชำระจำนวน 678.380 ล้านบาท
5.บริษัท จีเอ็มเอ็ม วัน ทีวี จำกัด หรือ จีเอ็มเอ็ม เอชดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด เดิม ช่อง ONE HD ชำระจำนวน 678.380 ล้านบาท 6.บริษัท ทรูโฟร์ยู สเตชั่น จำกัด หรือบริษัท ทรู ดีทีที จำกัด เดิม ช่องTrue4U ชำระจำนวน 329.025 ล้านบาท 7.บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล จำกัด หรือ บริษัท จีเอ็มเอ็ม เอสดี ดิจิทัล ทีวี จำกัด ช่อง GMM Channel ชำระจำนวน 326.350 ล้านบาท
8.บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง3SD ชำระจำนวน 324.745 ล้านบาท 9.บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด ช่อง MONO 29 ชำระจำนวน 322.070 ล้านบาท 10.บริษัท แบงคอก บิสสิเนส บรอดแคสติ้ง จำกัด ช่อง NOW ชำระจำนวน 316.720 ล้านบาท 11. บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น จำกัด ช่อง Nation ชำระจำนวน 190.246 ล้านบาท 12.บริษัท ไทย นิวส์ เน็ตเวิร์ค จำกัด ช่อง TNN24 ชำระจำนวน 187.892 ล้านบาท 13.บริษัท บีอีซี-มัลติมีเดีย จำกัด ช่อง 3Family ชำระจำนวน 101.222 บาท
14.บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ช่อง MCOT Kid ชำระจำนวน 100.580 บาท และเป็นผู้ประกอบการที่เข้ามาชำระก่อนหน้านี้ อีก 2 ราย ได้แก่ บริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ช่อง 7HD ชำระจำนวน 683.730 ล้านบาท และบริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง จำกัด ช่อง Workpoint TV ชำระจำนวน 333.305 บาท