กลุ่มการบิน-โรงแรม-รพ.กอดคอร่วง หลังเจอโรคเมอร์ส-ICAO ปักธงแดงกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday June 19, 2015 10:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

หุ้นกลุ่มสายการบิน, โรงแรม, โรงพยาบาล ราคาร่วงกันทั่วหน้า โดยเมื่อเวลา 10.27 น.หุ้น AAV อยู่ที่ 4.28 บาท ลดลง 0.28 บาท(-6.14%)มูลค่าซื้อขาย 295.40 ล้านบาท

หุ้น AOT อยู่ที่ 292.00 บาท ลดลง 15 บาท(-4.89%)มูลค่าซื้อขาย 1,117.43 ล้านบาท

หุ้น BA อยู่ที่ 21.30 บาท ลดลง 1 บาท(-4.48%)มูลค่าซื้อขาย 133.18 ล้านบาท

หุ้น BH อยู่ที่ 181.50 บาท ลดลง 8.50 บาท(-4.47%)มูลค่าซื้อขาย 186.23 ล้านบาท

หุ้น CENTEL อยู่ที่ 35.75 บาท ลดลง 2.00 บาท(-5.30%)มูลค่าซื้อขาย 265.34 ล้านบาท

หุ้น NOK อยู่ที่ 9.75 บาท ลดลง 0.25 บาท(-2.50%)มูลค่าซื้อขาย 28.86 ล้านบาท

หุ้น CPN อยู่ที่ 45 บาท ลดลง 1 บาท(-2.17%)มูลค่าซื้อขาย 77.58 ล้านบาท

บล.บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า ICAO ประกาศให้ไทยไม่ผ่านเกณฑ์การแก้ไขข้อบกพร่องบนเว็บไซด์เมื่อวานนี้ คาดลบต่อราคาหุ้นกลุ่มสายการบินแค่สั้น และจะไม่กระทบพื้นฐาน โดยไม่มีผลต่อการห้ามบิน ทั้งนี้มาตรฐานการบินของไทยยังคงมีใบรับรองอื่นรองรับ เช่น THAI (ได้มาตรฐานทั้ง IATA, EASA, CAAC, FAA, CASA), BA (IATA), AAV (CAAC) โดยทุกสายการบินยังคงดำเนินธุรกิจได้ตามปกติ และไม่กระทบต่อ AOT

ด้าน บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)ระบุว่า กลุ่มสายการบิน, โรงแรม, โรงพยาบาล, ค้าปลีก มี 2 ประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นวานนี้คือ 1) การพบผู้ติดเชื้อของโรคไวรัสเมอร์สในไทยรายแรก และ 2) การขึ้นเครื่องหมาย"ธงแดง"ประเทศไทยของ ICAO สำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อหุ้นในกลุ่มดังกล่าวก่อนหน้า จึงแนะนำนักลงทุน"ขาย"หุ้นในกลุ่มฯ โดยเฉพาะหุ้นที่แข็งกว่าตลาดฯก่อนหน้า อาทิ AOT, CENTEL, BH, CPN

ส่วนบล.กรุงศรี ระบุว่า กระแสตื่นตระหนกต่อข่าวการแพร่ระบาดของโรคไวรัสเมอร์สจะทำให้ประชาชนขาดความเชื่อมั่นในการดำเนินชีวิต กิจกรรมต่างๆในชีวิตประจำวันจะลดลง ประชาชนจะอยู่ติดกับบ้าน หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้า สนามบิน โรงภาพยนต์ การเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศจะลดลง ซึ่งจะกระทบต่อภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้องอย่างมีนัยสำคัญ อย่างไรก็ตาม คาดว่าผลกระทบในระยะแรกจะยังไม่มากเนื่องจากอยู่ในระยะของการพบเชื้อยังไม่พบการแพร่ระบาดหรือมีผู้เสียชีวิตแต่กระแสข่าวลือที่ออกมารายวันจะกระทบจิตวิทยาการลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

กลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ กลุ่มสายการบิน(THAI AAV BA NOK) ท่าอากาศยาน(AOT) กลุ่มโรงแรม(MINT ERW CENTEL) กลุ่มบริการ(SPA) กลุ่มค้าปลีก(CPN BIGC MAKRO) และกลุ่มโรงภาพยนต์(MAJOR) ส่วนกลุ่มธุรกิจที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์หรือสินค้าที่กินเพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันเช่นวิตามินซี (APCO MEGA) และกลุ่มโรงพยาบาลแต่ต้องเน้นโรงพยาบาลที่มีลูกค้าชาวไทยเป็นหลัก


แท็ก AOT  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ