(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้เจอแรงขายต่อ ยังวิตก ICAO ขึ้นธงแดง-ไวรัสเมอร์ส

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday June 22, 2015 09:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ซีไอเอ็มบี(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าอาจจะมีแรงขายทำกำไรต่อเนื่องจากสัปดาห์ก่อนหน้า เนื่องจากความกังวลในเรื่องของไทยถูกขึ้นสัญลักษณ์ธงแดงบนเว็บไซด์ขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ(ICAO)และการแพร่ระบาดของโรคไวรัสเมอร์สยังคงกดดันอยู่

วันนี้ทางภาครัฐเรียกประชุมเพื่อประเมินผลกระทบจากการพบผู้ติดเชื้อเมอร์สในประเทศไทย ซึ่งหากพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเติมก็อาจส่งผลให้หน่วยงานต่าง ๆ ปรับคาดการณ์ GDP ลงอีกได้ แต่หากสถานการณ์เป็นไปในทางที่ดีขึ้น ก็จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มโรงแรม สายการบิน ที่น่าจะมีการรีบาวด์ทางเทคนิคขึ้นมาได้ มองเป็นโอกาสเข้าซื้อเก็งกำไร

อย่างไรก็ตาม หากเช้านี้ดัชนีปรับลงแรง ช่วงบ่ายอาจมีโอกาสรีบาวด์กลับมาได้ ขณะที่ตลาดภูมิภาคเอเชียวันนี้มีการรีบาวด์ขึ้นมาได้ มองหุ้นไทยวันนี้มีแนวรับ 1,475-1,485 จุด ส่วนแนวต้าน 1,505 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(19 มิ.ย.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 18,015.95 จุด ลดลง 99.89 จุด(-0.55%),ดัชนี
NASDAQ ปิดที่ 5,117.00 จุด ลดลง 15.95 จุด(-0.31%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,109.99 จุด ลดลง 11.25 จุด(-0.53%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 0.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 29.39 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 93.79 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 12.64 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.10 จุด และดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.15 จุด

ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลเรือมังกร

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(19 มิ.ย.58) 1,491.46 จุด ลดลง 16.58 จุด (-1.10%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,432.50 ล้านบาท เมื่อวันที่ 19 มิ.ย.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(19 มิ.ย.58) ปิดที่ 59.61 ดอลลาร์/
บาร์เรล ลดลง 84 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(19 มิ.ย.58)ที่ 8.06 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 33.65/66 จับตาประชุมฉุกเฉิน EU กรณีหนี้กรีซวันนี้
  • สมาคมธนาคารไทยมั่นใจทุกธนาคารพร้อมรับเกณฑ์แอลซีอาร์ต้นปี 2559 ยันไม่สะเทือนการดำเนินงาน หลังจากทยอยปรับตัวในช่วงที่ผ่านมาแล้ว พบหลายรายที่ดำรงสินทรัพย์สภาพคล่องสูงกว่าเกณฑ์ ขณะที่วงในชี้ บลจ.รอรับอานิสงส์แบงก์ลดต้นทุน ปรับแผนกระจายเงินฝากผ่านกองทุนและสถาบัน ขณะที่"ไทยพาณิชย์"สำรองสภาพคล่องปึ้กสูงกว่าขั้นต่ำตามกฎหมายถึง 30% ด้านแบงก์กรุงเทพฟุ้งสินเชื่อเอสเอ็มอี 5 เดือน โต 3% มั่นใจทั้งปีโตตามเป้า
  • สศค.เผยสถานะแบงก์รัฐในช่วงครึ่งปีแรกยังแข็งแกร่ง สินเชื่อยังมีการเติบโตได้ในระดับ 5% แม้ยอดเอ็นพีแอลจะเพิ่มขึ้นบ้าง แต่ไม่ได้อยู่ในระดับที่น่าเป็นห่วง แต่ละแบงก์มีการบริหารจัดการและติดตาม ลูกหนี้ใกล้ชิดมีการบริหารจัดการเรื่อง เอ็นพีแอลอย่างใกล้ชิด
  • บอร์ด กนง.ห่วงกลุ่มครัวเรือนมีรายได้น้อยและเกษตรกรมีภาระหนี้สูงขึ้นผลจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ พบแนวโน้มสินเชื่อค้างชำระเกิน 1 เดือนปรับเพิ่มขึ้นในทุกประเภท โดยเฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต คาดรายได้เกษตรกรยังตกต่ำอยู่ในช่วงที่เหลือของปี และส่งออกที่ตกต่ำยังเป็นปัจจัยถ่วง รายได้-การบริโภคของประเทศ
  • สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเผยผลสำรวจความเห็นผู้ผลิตพบมีบางส่วนมีความคิดจะย้ายจากจีนมาประเทศในภูมิภาคอาเซียน หลังปัญหาขาดแคลนแรงงานและค่าแรงที่สูงขึ้น ระบุสนเวียดนามกัมพูชามากสุด ขณะที่ไทยยังมีโอกาสในด้านสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
  • กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติชงแผนก๊าซฯรับพีดีพี 2015 จ่อเข้า กพช.อนุมัติ เผยแผนระยะยาว 21 ปีอยู่บนสมมติฐานต้องเดินหน้าสำรวจและผลิตปิโตรเลียมรอบใหม่ การผลิตก๊าซแหล่งเอราวัณและบงกชต่อเนื่องไม่มีสะดุด ผสมนำเข้า LNG ที่กำหนดเปิดเสรีให้เอกชนรายอื่นแข่งได้ไม่ผูกขาดโดย ปตท.ควบคู่กับเสนอแผนยืดอายุแหล่งก๊าซอ่าวไทยเพิ่มด้วยการให้ก๊าซฯที่ส่งตรงโรงไฟฟ้าให้ใช้ LNG แทน
  • กรมธุรกิจพลังงานยืนยันต้องขึ้นภาษีสรรพสามิตรถยนต์แอลพีจีตามแผน ชี้ขึ้นเต็มที่ 2.50 บาทต่อลิตร มั่นใจไม่ทำให้ธุรกิจแอลพีจีเจ๊ง พร้อมระบุเตรียมพิจารณาเก็บภาษีเอ็นจีวีรายต่อไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SCB (บล.เคทีบีฯ)แนะ"ซื้อ"ราคาเป้าหมาย 205 บาท/หุ้น มี Upside มากถึง 30% การปรับลดคาดการณ์ GDP ปี 58 ของธปท.จาก +3.8% เหลือเพียง 3.0% ยังไม่ทำให้คาดการณ์ผลงานเปลี่ยนไป คาดปีนี้กำไรลดลงเหลือ 48,220 ลบ.-10%YoY ขณะที่เดือนพ.ค.SCB แสดงให้เห็นถึงการเพิ่มขึ้นของฐานเงินทุนอย่างมากสวนทางนโยบายลดขนาดเงินทุนของธนาคาร จากการสอบถามไปยังธนาคารพบว่าเป็นการพักเงินระยะสั้นของลูกค้าบางราย โดยการพักเงินก้อนใหญ่ของลูกค้าทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ยอาจเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ขณะที่สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นมามาก ส่งผลให้ NIM มีแนวโน้มปรับลดลงจากเดือนก่อน
  • LPN (บล.เคเคเทรด) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 23.20 บาท/หุ้น มีงานในมือราว 1.3 หมื่นล้านบาทรอบันทึกรายได้ในช่วง 2Q58-4Q58 เบื้องต้นคาดเห็นรายได้ที่เติบโตเริ่มต้นใน 2Q58 ราว 4.2 พันล้านบาท และรายได้จะเติบโตมากสุดใน 3Q58 ราว 5.5 พันล้านบาทเด่นสุด จากการบันทึกรายได้ของโครงการมูลค่าสูง 4 แห่งมูลค่าสูงกว่า 3 พันล้านบาท คือ Lumpini Place ศรีนครินทร์-สถานีหัวหมาก,Lumpini Park รัตนาธิเบศธ์ งามวงศ์วาน และ Lumpini Township รังสิต-คลอง1 ยอดขายโดยเฉลี่ยกว่า 90% ซึ่งจะทำผลประกอบการของ 2Q58 และ 3Q58 เติบโตเมื่อเทียบกับรายปี
  • TASCO (บล.เคจีไอฯ) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาเป้าหมาย 30.40 บาท/หุ้น โดยคาดว่าอุปสงค์ของ bitumen จากทั้งในประเทศและในภูมิภาคจะยังคงแข็งแกร่งไตรมาสที่เหลือของปีนี้ จากงบการปรับปรุงและก่อสร้างถนนของรัฐบาลที่เพิ่มขึ้น และคำสั่งซื้อซ้ำจากลูกค้าในจีน อินโดนีเซีย และเวียดนาม ซึ่งจะช่วยหนุนให้กำไรของ TASCO ยังคงเติบโตได้อย่างโดดเด่นในช่วงไตรมาสที่เหลือของปีนี้ เราปรับเพิ่มประมาณการกำไรสุทธิปี 2558 เพิ่มขึ้นอีก 30.3%YoYเป็น 4.0 พันล้านบาท
  • INTUCH (บล.เมย์แบงก์ฯ) แนะ"ทยอยสะสม" ให้ราคาเหมาะสมที่ 114 บาท เพื่อรับเงินปันผล โดยคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.20 – 2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 3% ขณะที่มองเชิงบวกต่อภาพระยะกลางของหุ้นกลุ่มสื่อสาร จากการประมูล 4G ในช่วงปลายปี และเชื่อว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ปลดล๊อกความกังวลเรื่องคลื่นความถี่ของ ADVANC ที่จะหมดอายุสัมปทานลงในปี 2558

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ