กฟผ.คาดขายโรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุด 2 เป็นสินทรัพย์ EGATIF ในปี 60

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday July 13, 2015 13:05 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสุนชัย คำนูณเศรษฐ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.มีแผนนำสินทรัพย์ที่เป็นโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 2 ขายเข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (EGATIF) ภายในปี 60

อย่างไรก็ตาม คงต้องรอแผนการลงทุนที่ชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากเป็น กฟผ.เป็นรัฐวิสาหกิจ ประกอบกับเพิ่งจัดตั้งกองทุน EGATIF โดยมีโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 เป็นสินทรัพย์ คิดเป็นมูลค่ากองทุนราว 2 หมื่นล้านบาท ทำให้ กฟผ.ยังต้องนำเงินที่ได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน EGATIF มาลงทุนเพื่อใช้ในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าและการวางระบบสายส่งตามแผนงานก่อน คาดว่าปีนี้จะใช้งบลงทุน 1 หมื่นล้านบาท และปี 59 จะใช้เงินลงทุนอีก 1 หมื่นล้านบาท

"เราจะมีการขายสินทรัพย์เข้ากองเพิ่มเติมอีกในปี 60 ซึ่งต้องรอแผนการลงทุนชัดเจนก่อน ยังบอกไม่ได้ว่ามูลค่าที่จะขายเข้ากองเพิ่มอีกเท่าไหร่ ตอนนี้เราเพิ่งจัดตั้งกองทุนไปจึงต้องรอดูผลการลงทุนก่อน ในส่วนของเงินที่ได้จะนำไปสมทบการลงทุนตามแผนการปี 58-59 โดยในปีนี้จะใช้เงินลงทุน 1 หมื่นล้านบาท และปีหน้าใช้อีก 1 หมื่นล้านบาท"นายสุนชัย กล่าว

สำหรับ EGATIF เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยวันนี้เป็นวันแรก หลังเสนอขายให้กับนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันในราคาหน่วยละ 10.00 บาท

นายสุทธิพัฒน์ เสรีรัตน์ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดวาณิชธนกิจและธุรกิจตลาดทุน ธนาคารไทยพาณิชย์(SCB) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายกองทุนรวม EGATIF เปิดเผยว่า EGATIF เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานกองแรกที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐวิสาหกิจ เพื่อเข้าลงทุนในสิทธิในรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้าในอนาคตของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ ชุดที่ 1 เป็นระยะเวลา 20 ปี ในราคาหน่วยละ 10 บาท ได้รับความสนใจจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบันอย่างล้นหลาม จากความเชื่อมั่นในศักยภาพของทรัพย์สินและการบริหารจัดการโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ที่มีประสิทธิภาพ

ตลอดจนความชัดเจนของรายได้ค่าความพร้อมจ่ายไฟฟ้าที่ EGATIF จะได้รับตลอดอายุการเข้าลงทุน ที่สามารถสร้างผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนได้อย่างชัดเจนและสม่ำเสมอ จึงเชื่อว่าหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน EGATIF เมื่อเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากกนักลงทุนอีกครั้ง

นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.กรุงไทย ในฐานะผู้จัดการกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน EGATIF กล่าวว่า โรงไฟฟ้าพระนครเหนือชุดที่ 1 ที่มีกำลังการผลิตตามสัญญาที่ 670 เมกะวัตต์ ซึ่งกองทุนรวม EGATIF เข้าไปลงทุนนั้น ถือเป็นหนึ่งในโรงไฟฟ้าใหม่ที่สุดในปัจจุบันของ กฟผ.มีศักยภาพและความพร้อมในการเดินเครื่องสูง

อีกทั้งทำเลที่ตั้งของโรงไฟฟ้าอยู่ใกล้แหล่งความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง จึงเป็นโรงไฟฟ้าลำดับต้นๆ ที่ต้องผลิตไฟฟ้าส่งเข้าระบบรองรับต้องการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมในย่านศูนย์กลางชุมชนผู้ใช้ไฟฟ้า นอกจากนี้ กฟผ. เป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและบำรุงรักษาที่เกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้าฯ ทั้งหมด ทำให้กองทุนรวม EGATIF ไม่มีภาระค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ตลอดอายุสัญญาการเข้าลงทุนอีกด้วย

ขณะเดียวกัน กองทุนรวม EGATIF ยังได้รับความคุ้มครองจากกรมธรรม์ประกันภัย 4 ประเภท เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นต่อโรงไฟฟ้าฯ ในกรณีที่โรงไฟฟ้าฯ ได้รับความเสียหายและมีผลกระทบต่อรายได้ค่าความพร้อมจ่าย อาทิเช่น ประกันภัยธุรกิจหยุดชะงัก โดยหากโรงไฟฟ้าฯ ได้รับความเสียหายและไม่มีความพร้อมในการผลิตไฟฟ้า กฟผ. จะได้รับสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัยและจะส่งมอบสินไหมทดแทนดังกล่าวให้แก่กองทุนรวมฯ

“จุดเด่นต่างๆ ที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้กองทุนรวมฯ มีโครงสร้างรายได้ที่ชัดเจน สม่ำเสมอ โดยกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน EGATIF มีนโยบายจ่ายปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว โดยจะจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง และนักลงทุนที่เป็นบุคคลธรรมดายังได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้ของเงินปันผลเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากวันจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนรวมฯ อีกด้วย”นางชวินดา กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ