DAII เริ่มซื้อขายใน mai 23 ก.ค.นี้ มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 520 ลบ.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 22, 2015 15:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า บมจ.ไดอิ กรุ๊ป (DAII) จะเข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างในวันที่ 23 กรกฎาคม 2558

DAII และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์รั้วสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เฟนเซอร์" และ “นิวโว" มากว่า 20 ปี โดยเป็นผู้นำธุรกิจรั้วสำเร็จรูปซึ่งได้รับความนิยมในกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำและลูกค้าทั่วไป นอกจากนี้ ยังดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านกึ่งสำเร็จรูปและบ้านสำเร็จรูปภายใต้เครื่องหมายการค้า “คิวเซฟ ไดมอนด์" และ “กินซ่าโฮม" และธุรกิจจำหน่ายพร้อมติดตั้งประตูและหน้าต่างอลูมิเนียมสำเร็จรูป ภายใต้เครื่องหมายการค้า “เอเทค" โดย DAII เน้นการสร้างนวัตกรรมในการก่อสร้างผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ที่มีความแข็งแรงทนทานและสามารถก่อสร้างได้รวดเร็ว เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ายุคใหม่

DAII มีทุนชำระแล้ว 130 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 100 ล้านหุ้น และหุ้นสามัญเพิ่มทุน 30 ล้านหุ้น เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เมื่อวันที่ 15-17 กรกฎาคม 2558 ในราคาหุ้นละ 4 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 120 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 520 ล้านบาท มีบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย

นายธวัช มีประเสริฐสกุล กรรมการผู้จัดการ DAII เปิดเผยว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai นับเป็นอีกก้าวสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์ ชื่อเสียง ความแข็งแกร่งทางด้านเงินทุน และเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจเพื่อให้บริษัทบรรลุเป้าหมายในการรักษาความเป็นผู้นำตลาดรั้วสำเร็จรูปครอบคลุมลูกค้าเป้าหมายทั่วประเทศ และสามารถลดต้นทุนในการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปเพื่อรองรับฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น ทั้งนี้ บริษัทจะนำเงินระดมทุนไปใช้ก่อสร้างโชว์รูมเดอะกินซ่าแห่งที่ 2 และดำเนินการก่อสร้างโรงงานบ้านสำเร็จรูปแห่งที่ 2 ให้แล้วเสร็จ รวมถึงสร้างโรงงานผลิตรั้วสำเร็จรูปและสำนักงานขายที่ จ. ระยอง และเงินระดมทุนอีกส่วนหนึ่งจะใช้ชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน

DAII มีผู้ถือหุ้นใหญ่ 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ กลุ่มมีประเสริฐสกุล ถือหุ้น 52.64% น.ส.วชิราภรณ์ สกุลจันทร์ ถือหุ้น 3.88% และกลุ่มเพียรปัญญารักษ์ ถือหุ้น 3.61% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้นครั้งนี้คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิ (P/E Ratio) ที่ 36.36 เท่า คำนวณจากผลประกอบการ 4 ไตรมาสล่าสุด (1 เมษายน 2557–31 มีนาคม 2558) ซึ่งเท่ากับ 13.95 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (fully diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้น 0.11 บาท

ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่า 50% ของกำไรสุทธิหลังจากหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ