(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าปรับลงเล็งบลูชิพนำดิ่งจาก Sentiment จีนปรับค่าเงินหยวน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 13, 2015 09:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายถนอมศักดิ์ สหรัตน์ชัย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการและหัวหน้าฝ่ายวิจัย บล.เคที ซีมิโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงก่อน สวนทางตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่จะรีบาวน์ขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ปรับตัวลงไปแล้ว โดยคาดว่าหุ้นบลูชิพจะนำดิ่ง จาก Flow ที่ขายต่อ โดยเฉพาะหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกไปจีน หรือทำธุรกิจเกี่ยวกับจีนจะปรับตัวลงก่อน เนื่องจากการปรับค่าเงินหยวนของจีนไม่รู้ว่าจะเท่าไร และจะมีอีกหรือเปล่า จึงทำให้เป็น Sentiment ลบต่อตลาดฯในช่วงนี้

ดังนั้นนักลงทุนจึงได้หาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเข้าไปลงทุนก่อน และหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลก็เป็นตัวเลือกได้ ขณะที่ในช่วงนี้ก็ให้ติดตามการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่อไป และให้ติดตามการประกาศตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(GDP)ในไตรมาส 2/58 ของไทยในวันจันทร์ด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,400 ถัดไป 1,392-1,388 จุด ส่วนแนวต้าน 1,415-1,418 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(12 ส.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,402.51 จุด ลดลง 0.33 จุด(0.00%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,044.39 จุด เพิ่มขึ้น 7.60 จุด(+0.15%),ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,086.05 จุด เพิ่มขึ้น 1.98 จุด(+0.10%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 0.23 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 16.41 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 19.46 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 1.58 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 7.42 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 13.46 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ ลดลง 4.30 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(11 ส.ค.58) อยู่ที่ 1,408.32 จุด ลดลง 11.81 จุด (-0.83%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,196.09 ล้านบาท เมื่อวันที่ 11 ส.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(12 ส.ค.58) ปิดที่ 43.3 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 22 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(12 ส.ค.58)ที่ 6.11 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • ธนาคารกลางจีนได้ประกาศปรับลดอัตราอ้างอิงแลกเปลี่ยนเงินหยวนรายวันลงไปอยู่ที่ 6.33 หยวน/เหรียญสหรัฐ ต่ำกว่าอัตราอ้างอิงวันก่อน 1.6% หลังจาก 1 วันก่อนหน้านี้ ธนาคารกลางจีนก็ได้ปรับลดอัตราอ้างอิงรายวันลงไปแล้ว 1.86% ส่งผลให้ในการซื้อขายเงินหยวนที่ตลาดเซี่ยงไฮ้ เมื่อวันที่ 12 ส.ค.ที่ผ่านมา เงินหยวนได้อ่อนค่าแตะที่ 6.4510 หยวน/เหรียญสหรัฐทีเดียว
  • แหล่งข่าวจากคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (เรกูเลเตอร์) เปิดเผยว่า แนวโน้มค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) รอบเดือน ก.ย.-ธ.ค. มีโอกาสปรับลดลงแค่ 5-6 สต./หน่วย จากเดิมเคยประมาณการได้ 9.35 สต./หน่วย เพราะแม้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะอ่อนค่าต่อเนื่อง เฉลี่ยอยู่ที่ 50-55 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล จนราคาก๊าซธรรมชาติลดลงตามไปด้วย แต่ยังมีปัจจัยหลักจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงอย่างมาก เฉลี่ยมาอยู่ที่ 35 บาท/เหรียญสหรัฐ ในขณะที่ตัวเลขค่าเงินที่ใช้คำนวณค่าเอฟทีงวดก่อนยังอยู่ที่ 33 บาท/เหรียญสหรัฐ
  • สมาคมไทยรับสร้างบ้าน เผยครึ่งหลังปี 58 ตลาดรับสร้างบ้านยังทรงตัว คาดตลาดเริ่มฟื้นต้นปี 59 หลังพบความเชื่อมั่น ผู้บริโภค กลุ่มวัสดุก่อสร้างแนวโน้มรุ่งรับ AEC พร้อมเดินหน้าจัดงาน "มหกรรมสร้างบ้านและวัสดุก่อสร้าง 2559" กระตุ้นตลาดรับสร้างบ้านตั้งแต่ต้นปี ชูแนวคิด "บ้านและวัสดุก่อสร้าง.. ที่คุณเลือกเอง" งานเดียวที่ตอบโจทย์เรื่องบ้านและวัสดุ ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย เผยมียอดจองบูทแล้ว 60% เตรียมทุ่มงบ 8 ล้านบาทปลุกกระแสจัดงานฯ
  • "ปรียานุช จึงประเสริฐ" ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายจัดการกองทุน ธนาคารแห่งประเทศไทย เผยภาระหนี้ของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) ณ วันที่ 11 สิงหาคม 2558 มียอดคงเหลือทั้งสิ้น 998,791 ล้านบาท จากหนี้เดิมที่มีอยู่ทั้งสิ้น 1,130,000 ล้านบาท แบ่งเป็นหนี้เอฟไอดีเอฟ กองที่ 1 จำนวน 463,275 ล้านบาท และเอฟไอดีเอฟ กองที่ 3 จำนวน 669,857 ล้านบาท ซึ่งล่าสุดในเดือนมิถุนายน 2558 กองทุนได้นำส่งเงินเพื่อชำระต้นเงินกู้ดอกเบี้ยและค่าบริหารจัดการหนี้ของ 2 กองทุนไปแล้ว 227,654 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาสที่ 4 ของปีงบประมาณ 2558 จะมีการชำระคืนต้นเงินกู้และดอกเบี้ยทั้ง 2 กองทุนเพิ่มอีก 42,687 ล้านบาท ดังนั้น คาดว่าจะใช้เวลาในการชำระหนี้ที่เหลือภายใน 15 ปี ซึ่งเร็วกว่ากำหนดเดิม 6 ปี จากเดิมที่คาดว่าจะใช้เวลาในการชำระถึง 24 ปี

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PIMO บมจ.ไพโอเนียร์ มอเตอร์ เทรดวันนี้วันแรก ในตลาดหลักทรัพย์ mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรมบล.ฟันันเซีย ไซรัส ประเมินเป้าหมายปี 2016 ที่ 1.60 บาท อิง PE 14 เท่า โดยคาดกำไรสุทธิปีนี้โต 19% Y-Y เป็น 48 ล้านบาท ปีหน้าโตแรงขึ้น 27% Y-Y จากการเพิ่มกำลังการผลิต ออกสินค้าใหม่ ต้นทุนลดลง และรุกต่างประเทศ

PIMO เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายมอเตอร์สำหรับเครื่องปรับอากาศ ปั๊มน้ำบ้าน ปั๊มหอยโข่ง เครื่องสูบน้ำ สระน้ำ มอเตอร์กำลังสำหรับอุตสาหกรรม รายได้หลัก 45% มาจากมอเตอร์เครื่องปรับอากาศซึ่งมีโอกาสเติบโตสูง รายได้อีก 40% มาจากปั๊มน้ำซึ่งจะโตแรงใน 2 ปีนี้หลังลูกค้ารายใหญ่สั่งเพิ่มกำลังการผลิตกว่าเท่าตัว

  • INTUCH (เมย์แบงก์ กิมเอ็ง)"สะสม"เป้า 105 บาท จะรายงานผลประกอบการ 2Q58 ในวันนี้ โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบ yoy หลังบริษัทลูกทั้ง ADVANC, THCOM รายงานกำไรสุทธิ 2Q58 ขยายตัว yoy และทรงตัว qoq พร้อมคาดการณ์เงินปันผล 1H58 หุ้นละ 2.30 บาท คิดเป็นผลตอบแทนจากเงินปันผลในเกณฑ์ดีที่ 2.9% และยังมีปัจจัยบวกจากการประมูล 4G ในช่วงเดือน พ.ย.จะช่วยหนุนหุ้นกลุ่มสื่อสารให้ปรับตัวขึ้นใน 2H58 และเชื่อว่า ADVANC จะเป็นตัวเต็งในการประมูลเนื่องจากฐานะการเงินแข็งแกร่ง โดย MBKET ประเมินว่า ADVANC จะชนะใบอนุญาต 4G คลื่น 900 และ 1800 MHz อย่างละ 1 ใบ
  • SYNTEC(โกลเบล็ก)เป้า 3.55 บาท คาดกำไร 2Q58 ที่ 130 ลบ +38%QoQ, +78%YoY จากรายได้ตามฤดุกาลและ Margin ที่ดีขึ้น และมี Tax Shield จากลูกหนี้การค้าล้มละลายซึ่งมีมูลหนี้ประมาณ 500 ล้านบาท หนุนกำไรปี 2558 ส่วน Backlog บริษัทสูงถึง 1.1 หมื่นลบ. และมีประมูลงานใน 2Q58 อีกราว 5 พันลบ. โดยส่วนใหญ่เป็นงานก่อสร้างคอนโด สำนักงานและโรงงาน
  • SPALI(โกลเบล็ก)"ซื้อ"เป้า 32 บาท แจ้งกำไร 2Q58 เท่ากับ 965 ล้านบาท ต่ำกว่าคาด 10% แต่เติบโต 82%YoY และ 7%QoQ พร้อมกับจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล 0.50 บาทต่อหุ้น กำหนด XD 21 ส.ค. วันจ่าย 8 ก.ย.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ