(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้าลุ้นรีบาวน์หลังร่วงแรง แม้ยังไม่มั่นใจสถานการณ์ในปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 19, 2015 09:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกษม พันธ์รัตนมาลา กรรมการและหัวหน้าส่วนงานวิจัย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้มีความเป็นไปได้ที่จะรีบาวน์ขึ้นหลังจากที่เมื่อวานนี้ดัชนีฯได้ปรับตัวลงลึก ทั้งนี้ นักลงทุนยังขาดความเชื่อมั่นอยู่หลังจากที่มีเหตุการณ์เจอระเบิดลูกที่ 2 ออกมาในพื้นที่บริเวณใต้สะพานตากสิน หลังจากที่ได้เกิดเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์เมื่อค่ำวันจันทร์ ทั้งนี้จะต้องรอดูว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจแค่ไหน

นอกจากนี้ยังมี 23 ประเทศได้ออกคำเตือนนักท่องเที่ยวที่จะเดินมาไทยให้ระวังแล้ว แต่ก็เป็นการเตือนแบบกลาง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าย่อมจะต้องส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวแต่เชื่อว่าไม่น่าจะแรงมาก

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยตลาดหุ้นจีนยังคงติดลบอยู่ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเศรษฐกิจจีนที่อาจชะลอตัวมากกว่าคาด และทางการจีนก็คงจะไม่มีมาตรการที่จะช่วยอะไรมาก ทำให้ตลาดหุ้นจีนยังเหวี่ยงมากและมีผลต่อตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคไปด้วย

พร้อมให้แนวรับ 1,360 จุด แนวต้าน 1,390 จุด

ประเด็นของการพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด(18 ส.ค.58) ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,511.34 จุด ลดลง 33.84 จุด(-0.19%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,059.35 จุด ลดลง 32.35 จุด(-0.64%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,096.92 จุด ลดลง 5.52 จุด(-0.26%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดเช้าวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ ลดลง 86.98 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 101.36 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 5.59 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ ลดลง 1.70 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 6.52 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 15.08 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด(18 ส.ค.58) อยู่ที่ 1,372.61 จุด ลดลง 36.13 จุด (-2.56%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 6,876.79 ล้านบาท เมื่อวันที่ 18 ส.ค.58
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด(18 ส.ค.58) ปิดที่ 42.62 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 75 เซนต์
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด(18 ส.ค.58)ที่ 5.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล
  • เงินบาทเช้านี้เปิด 35.57/59 แข็งค่าจากวานนี้แต่แนวโน้มอ่อนค่า จับตาสถานการณ์ในปท.
  • พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้ส่งรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายเรียบร้อยแล้ว รอเพียงการโปรดเกล้าฯ ลงมาเท่านั้น และจะมีการชี้แจงต่อไป
  • พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการต่อการนำเข้าสินค้าที่ไม่จำเป็น 17 รายการ ในกลุ่มสินค้าเชื้อเพลิง สินค้าทุน สินค้าอุปโภค บริโภค และสินค้ายานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่ง ซึ่งส่วนใหญ่นำเข้ามาผลิตเพื่อส่งออก หรือบางรายการสามารถผลิตได้ในประเทศ พร้อมทั้งสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการกับสินค้าเหล่านี้ภายใต้ 4 มาตรการ
  • สำนักงบประมาณได้รายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 18 ส.ค. ถึงภาพรวมการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2557-31 ก.ค. 2558 ว่ามีการเบิกจ่ายไปแล้ว 2,062,249 ล้านบาท คิดเป็น 80.1% ของงบทั้งสิ้น 2,575,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้า 1.8%
  • รมว.คลังยอมรับห่วงปัญหาระเบิดแยกราชประสงค์ กระทบการท่องเที่ยว ฉุดเศรษฐกิจให้หนักลงไปอีก แต่ยังเร็วเกินไปที่จะประเมินสถานการณ์ หวังรัฐบาลสามารถดูแลได้อย่างรวดเร็ว-มีประสิทธิภาพ ด้านเงินบาทอ่อนค่าแตะ 35.62
  • กระทรวงแรงงานเตรียมหารือค่าจ้างขั้นต่ำปี 2559 เร็วๆ นี้รับตัวเลขแต่ละจังหวัดส่งมากว่า 90% คงอัตราค่าจ้างขั้นต่ำไว้ที่ 300 บาทต่อวัน ขณะที่สภาองค์การนายจ้างฯ ยอมรับภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวการปรับขึ้น ไม่ง่ายนักแนะคณะกรรมการไตรภาคี ชี้ขาดและให้ประกาศเป็นกลุ่มจังหวัดป้องแย่งชิงแรงงานกรณีค่าแรงต่างกันเกินไป

*หุ้นเด่นวันนี้

  • ILINK บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น ย้ายเข้าสังกัดตลาดหลักทรัพย์(SET)วันนี้วันแรก ในหมวดธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี สำหรับการคำนวณ Ceiling & Floor ของหลักทรัพย์ ILINK และ ILINK-W1 ให้ใช้ราคาซื้อขายครั้งสุดท้ายของหลักทรัพย์ดังกล่าวในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นฐานในการคำนวณ Ceiling & Floor ตามปกติ
  • SVI(เคเคเทรด)"ซื้อ"เป้า 5.70 บาท ธุรกิจฟื้นตัวกลับมาเทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดอัคคีภัย หนุนให้กำไรปกติใน 2Q58 ดีกว่าคาดถึง 45% ในระยะยาว คาดกำไรเติบโตเฉลี่ย 19% ต่อปี(CAGR)ในช่วงปี 2558-2559 สูงกว่าค่าเฉลี่ยกลุ่มที่ 15%
  • STEC(เคเคเทรด)"เก็งกำไร"เป้า 25 บาท งบดุลแข็งแกร่งด้วยสถานะเงินสดสุทธิ(Net cash) มีเงินสดและเงินลงทุนระยะสั้น รวมกันกว่า 2.5 พันล้านบาท ณ สิ้น 2Q58, เป็นหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ที่มีโอกาสเข้าประมูลโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ โดยเฉพาะระบบขนส่งทางราง ในเชิงเทคนิค วานนี้ราคาแข็งแกร่งมาก แม้ SET ลดลง 2.6% แต่ราคาหุ้น STEC ไม่ได้ปรับลงตามตลาด
  • KBANK(ดีบีเอส วิคเคอร์ส)"ซื้อลงทุน"ให้ราคาพื้นฐานระยะยาว 1 ปี 224 บาท(เทียบเท่ากับ P/BV ปี 58 ที่ 1.9 เท่า)ชอบ KBANK ที่มีการกระจายของพอร์ตสินเชื่อและรายได้ที่ดี และเชื่อว่าจะบริหารจัดการความเสี่ยงเรื่อง NPL ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความสามารถในการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ดีแม้การตั้งสำรองค่าเผื่อฯใน 2H58 ยังสูง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ